กิน "ยาฟาวิพิราเวียร์" ไม่ใช่แค่ทำให้ตาเปลี่ยนเป็นสีม่วง-น้ำเงินเท่านั้น

กิน "ยาฟาวิพิราเวียร์" ไม่ใช่แค่ทำให้ตาเปลี่ยนเป็นสีม่วง-น้ำเงินเท่านั้น

กรณีหญิงสาวท่านหนึ่งที่ได้โพสต์คลิปรีวิวการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเธอก็ได้กิน "ยาฟาวิพิราเวียร์" จากนั้นปรากฏว่าตาของเธอเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง ขณะเดียวกันข้อมูลจากคุณหมอหลายๆท่านต่างออกมาระบุว่า "ยาฟาวิพิราเวียร์" ไม่ใช่แค่ตาเปลี่ยนเป็นสีม่วง-น้ำเงินเท่านั้น

กรณีที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล โดยหญิงสาวท่านหนึ่งที่ได้โพสต์คลิปรีวิวการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเธอก็ได้กิน "ยาฟาวิพิราเวียร์" จากนั้นปรากฏว่าตาเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง-น้ำเงิน เรื่องนี้กลายเป็นไวรัลและมีการเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม และหลายคนตั้งคำถามว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่นั้น

ดูคลิปต้นเรื่อง

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ยอด โควิด-19 วันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 7,526 ราย ตาย 19 ราย

 

เรื่องนี้ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เคยพูดถึงกรณีที่ผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 และกิน "ยาฟาวิพิราเวียร์" เช่นกัน จากนั้นตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีม่วง-น้ำเงิน 

 

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ ระบุว่า จากข้อมูลที่สืบค้นได้สันนิษฐานว่าตัว "ยาฟาวิพิราเวียร์" มีคุณสมบัติเรืองแสง โดยจะไปสะสมได้ที่กระจกตา เล็บและผิวหนัง แต่ไม่ทำให้อวัยวะนั้นทำงานผิดปกติและหายได้เองเมื่อหยุดยา 

 

กิน \"ยาฟาวิพิราเวียร์\" ไม่ใช่แค่ทำให้ตาเปลี่ยนเป็นสีม่วง-น้ำเงินเท่านั้น

 

ด้าน ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ เจ้าของเพจ "หมอแล็บแพนด้า" ก็ได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน บอกว่า กินยาฟาวิพิราเวียร์ไม่ใช่แค่ตาสีม่วงน้ำเงิน แต่บางคนตาเรืองแสงได้ด้วย

 

ฟาวิพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัสที่อย่างที่เรารู้กันว่ามีฤทธิ์ต่อต้านอาร์เอ็นเอไวรัสหลายชนิด ก็เลยเอามารักษาโควิดเพราะโควิดมันเป็นไวรัส

 

ฟาวิพิราเวียร์ อีกชื่อนึงมันคือ 5-Fluoro-2-hydroxypyrazine-3-carboxamide ซึ่งประกอบไปด้วยสารเรืองแสง ทีนี้พอเรากินยาเข้าไปเพื่อรักษาโควิด แถมต้องกินวันละเป็น 10 เม็ด ยามันก็เลยกระจายไปทั่วร่าง ทั้งผิว เส้นผม เล็บ ลูกตา บางคนจะเห็นชัดเลยว่าเรืองแสง บางคนก็มองด้วยตาเปล่าแล้วเห็นเป็นสีม่วงๆ อย่างไรก็ตาม หากหยุดยาร่างกายก็กำจัดยาออกไปเอง ฉะนั้นไม่ต้องตกใจไป 

 

 

ทั้งนี้ นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เตือนประชาชนอย่าซื้อยาฟาวิพิราเวียร์กินเอง อาจเป็นยาปลอมและการใช้ยาที่ไม่ถูกวิธีอาจทําให้เกิดเชื้อดื้อยา ส่งผลให้ใช้ยาไม่ได้ผลและเสียชีวิตได้

 

ยาฟาวิพิราเวียร์จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องสั่งจ่ายและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จําเป็นต้องติดตามอาการข้างเคียงและผลการรักษาระหว่างการใช้ยา การใช้ยาในผู้ป่วยบางกลุ่มจําเป็นต้องคํานึงถึงประโยชน์และความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่จะตามมาโดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ นอกจากนี้จําเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามคําแนะนํา 

 

อ้างอิงจาก : Tiktokเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล , "หมอแล็บแพนด้า" , คณะกรรมการอาหารและยา