ชง ศปก.ศบค. ช่วยแก้ปัญหาหลายเรื่องเกินขีดความสามารถหลังพบตัวเลข นทท.เพิ่ม

ภูเก็ต ชง ศปก.ศบค. ช่วยแก้ปัญหาหลายเรื่องเกินขีดความสามารถหลังพบตัวเลข นทท.เพิ่มจาก 400-500 คนต่อวัน เป็น 4,000 คนต่อวัน เพื่ออุดช่องโหว่ง เดินหน้า “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เวอร์ชั่น 2”

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 65 ที่ห้องประชุมศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โอกาสนี้ยังได้ร่วมประชุมกับศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ส่วนกลาง ผ่านระบบ ZOOM เพื่อรายงานสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากการดำเนินการของจังหวัดนำร่องในการเปิดรับนักท่องเที่ยว หรือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และแนวทางในการแก้ปัญหาการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาภูเก็ตผ่านทางระบบภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หลังจากมีการยกเลิกระบบเทสต์แอนด์โกเป็นการชั่วคราว เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอปัญหาภายหลังจากมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทางท่าอากาศยานภูเก็ตเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 3,000-4,000 คน จากก่อนหน้านี้วันละ 400-500 คน ก่อให้เกิดปัญหาตามมา ได้แก่ ปัญหาความล่าช้าในการอนุมัติ Thailand Pass ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยตามมาตรการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และเทสต์แอนด์โก เนื่องจากสำนักงานควบคุมโรค เขต 11 (นครศรีธรรมราช) ไม่มีอำนาจอนุมัติ Health Insurance และ Hotel booking จึงขอให้ ศบค.เห็นชอบให้จัดตั้งเป็น One Stop Service ด้วยการบูรณาการกำลังคน อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้สามารถทำงานได้ตลอด 24 รวมถึงจัดตั้ง Call Center เพื่อตอบทุกปัญหานักท่องเที่ยว ซึ่งเกินศักยภาพและอำนาจของจังหวัดภูเก็ต

ปัญหาการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ (RT-PCR) ครั้งที่ 2 ไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดในครั้งที่ 2 และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ มีสูงถึงวันละ 10,000 คน ทำให้ผลตรวจออกมาล่าช้าเกิน 2 ชั่วโมง และนักท่องเที่ยวต้องเลื่อนการเดินทาง จึงขอเพิ่มรถ Mobile Lab จำนวน 5 คัน ซึ่งขณะนี้ได้มาแล้ว 2 คัน และขอเพิ่มค่าตรวจ PCR ครั้งที่ 2 ที่รัฐบาลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจาก 1,300 บาท เป็น 1,900-2,000 บาท เพื่อจูงใจให้โรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมดำเนินการมากขึ้น ถัดมา จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือเป็นผู้ป่วยสีเขียว ทำให้จำนวน Hospitel และ Hotel Isolation ไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยว เฉลี่ยวันละประมาณ 30-40 ราย ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงร่วมมือกับโรงแรมเปิด Hotel Isolationเพิ่มอีก 66 แห่ง รวมประมาณ 800 ห้อง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ภายใต้มาตรการของสาธารณสุข

ปัญหาประกันภัยของนักท่องเที่ยวไม่ครอบคลุมผู้ป่วยกลุ่มที่ไม่มีอาการ และไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากเงินประกันได้ ทำให้โรงพยาบาลเอกชนจะต้องขอเก็บเงินประกันก่อน แต่นักท่องเที่ยวมักจะไม่ยินยอม จึงเสนอให้ ศบค.กำหนดมาตรการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องซื้อประกันที่ครอบคลุมการรักษาพยาบาลที่อาการเล็กน้อย และโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ หรืออาจจะซื้อประกันภัยของคนไทยก็ได้ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาพยาบาล รวมถึงปัญหานักท่องเที่ยวไม่ยินยอมติดตั้งแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” ทำให้ติดตามตัวได้ยาก และขอให้นำระบบแอพพลิเคชัน SHABA และ PSAS เชื่อมต่อกับระบบ Thailand Pass เพื่อให้ระบบการจองโรงแรมและการจอง swab test ครั้งที่ 2 มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบ Coste

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดที่ภูเก็ต กล่าวต่อที่ประชุมว่า ในส่วนของการตรวจเชื้อของนักท่องเที่ยวที่เดนทางเข้ามานั้น ยังคงต้องการให้มีการตรวจหาเชื้อครั้งแรกที่สนามบินภูเก็ตต่อไป และคาดว่าในช่วงปลายเดือนมกราคมต่อเนื่องเดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีน มีการคาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าภูเก็ตไม่ต่ำกว่าวันละ 4,500 คน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขอสนับสนุนทั้งกำลังคนและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ มาเพิ่ม เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างรวดเร็ว และต้องการให้ทางส่วนกลางได้เปิดใจรับฟังคนในพื้นที่ให้มากขึ้น เราไม่เก่งแต่เรามีประสบการณ์ในสนามรบและเรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น เพื่อจะทำให้ปัญหาต่างๆ ลดน้อยลง

ทางด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตพร้อมที่จะเดินหน้า ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เวอร์ชัน 2 ปัจจุบันเรารับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติวันละ 3,000-4,000 คน จากโครงสร้างที่มีอยู่รับเพียงคนในพื้นที่ แต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาทำให้ทั้งกำลังคนและอุปกรณ์ต่างๆ ค่อนข้างที่จะตึงตัวมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภูเก็ตจะต้องได้รับการสนับสนุนด้านต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลาง เพื่อให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในเวอร์ชัน 2 ได้เดินต่อไปได้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ปากท้องคนภูเก็ตดีขึ้น ควบคู่ไปกับการควบคุมโรค และจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ยืนยันว่า จะไม่การปิดเกาะภูเก็ตอย่างแน่นอน ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อซึ่งเราติด 1 ใน 5 อันดับนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามาดำเนินการหาแนวทางและมาตรการในการอุดรอยโหว่งต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่จะสำเร็จได้นั้นก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน