"7 วันอันตราย" ปีใหม่ 2565 วันที่ 5 เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ตาย 34 ราย สะสม 263

"7 วันอันตราย" ปีใหม่ 2565 วันที่ 5 เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ตาย 34 ราย สะสม 263

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 สรุปสถิติ "7 วันอันตราย" ปีใหม่ 2565 วันที่ 5 เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้งตาย 34 ราย

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

สรุปสถิติ "7 วันอันตราย" อุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 มกราคม 2565

  • เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง
  • ผู้เสียชีวิต 34 ราย
  • ผู้บาดเจ็บ 311 คน

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.64 – 2 ม.ค.65)

  • เกิดอุบัติเหตุรวม 2,221 ครั้ง
  • ผู้เสียชีวิตรวม 263 ราย
  • ผู้บาดเจ็บรวม 2,198 คน

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "7 วันอันตราย" ปีใหม่ 2565 วันที่ 4 เกิดอุบัติเหตุ 574 ครั้งตาย 73 ราย

 

ศปถ.ได้กำชับให้จังหวัดประสานการปฏิบัติและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชน เน้นการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร บนเส้นทางสายหลักและสายรองเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ/จังหวัด พร้อมกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ฝากเตือนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด “เร็ว เมา โทร ง่วง ไม่ขับ” เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

 

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวม

สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ "ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ"

  • เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง
  • ผู้เสียชีวิต 34 ราย
  • ผู้บาดเจ็บ 311 คน

- สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่

  • ขับรถเร็ว ร้อยละ 34.85
  • ดื่มแล้วขับร้อยละ 29.32

- ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่

  • รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.02
  • รถปิกอัพ/กระบะ ร้อยละ 8.14

- อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง

  • เส้นทางตรง ร้อยละ 83.40
  • ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.69
  • ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 32.57

- ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่

  • ช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 21.82

- ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ

  • 40 – 49 ปี ร้อยละ 15.97

 

"7 วันอันตราย" ปีใหม่ 2565 วันที่ 5 เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ตาย 34 ราย สะสม 263

 

"7 วันอันตราย" ปีใหม่ 2565 วันที่ 5 เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ตาย 34 ราย สะสม 263

 

 

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,903 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,014 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 436,162 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 91,720 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 26,860 ราย ไม่มีใบขับขี่ 23,639 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตรัง (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และอุดรธานี (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (15 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 53 จังหวัด

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.64 – 2 ม.ค.65)

  • เกิดอุบัติเหตุรวม 2,221 ครั้ง
  • ผู้เสียชีวิตรวม 263 ราย
  • ผู้บาดเจ็บรวม 2,198 คน

- จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่

  • เชียงใหม่ (82 ครั้ง)

- จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่

  • กรุงเทพมหานคร (17 ราย)

- จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่

  • เชียงใหม่ (78 คน)

 

นายบุญธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเส้นทางหลักจากภูมิภาคต่าง ๆ ที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการดูแลความปลอดภัยบนเส้นทางสายหลัก สายรองเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ/จังหวัด รวมถึงทางลัดทางเลี่ยง เพิ่มความถี่ในการการเรียกตรวจ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารท้ายกระบะ เน้นการกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนของผู้ขับขี่ ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง ในส่วนของการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้ประสานการเปิดช่องทางพิเศษและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกจังหวัดประสานการปฏิบัติและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้คาดว่าเส้นทางหลักทุกสายจะมีปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัว และการจราจรติดขัดในบางช่วงตลอดทั้งวัน อาจทำให้ผู้ขับขี่ใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายและง่วงหลับใน

 

จึงขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ขับรถเร็ว จอดพักรถเป็นระยะในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น จุดบริการต่างๆ หรือสถานีบริการน้ำมัน และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด “เร็ว เมา โทร ง่วง ไม่ขับ” เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

 

ข้อมูลจาก : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย