“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับคาอู่ "เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ" ผิดกฎ IUUโทษหนัก

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับคาอู่ "เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ" ผิดกฎ IUUโทษหนัก

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับคาอู่ "เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ" ผิดกฎ IUUโทษหนัก ทั้งคุก ทั้งปรับ อ่วม กว่า 67.8 ล้านบาทได้ออกหมายจับไปแล้ว18คนเป็นเจ้าของเรือ3คนและลูกน้อง15คน เล็งออกหมายจับเจ้าหน้าที่รัฐร่วมล่าโลมา

เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (ที่  2 ม.ค.65 ) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร./รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายพร้อมด้วย พลเรือตรี สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.ภาค 2)  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิงหนคร กองบังคับการตำรวจน้ำสงขลา เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าสงขลา เจ้าหน้าที่ศุลกากรภาค9  เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน9 เดินทางมาที่ อู่เรือศรีสงขลา หมู่ 2 ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา เพื่อมาตรวจเรือที่ยึดไว้ 5 ลำเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา ที่ชุดปฏิบัติการด้านการประมง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน ศพดส.ตร.ศรชล ภาค 2 และตำรวจภูธรภาค 9  ได้เข้าทำการตรวจสอบ อายัด และสั่งกักเรือประมง "ปลอมแปลง" สัญชาติ ซึ่งลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 5 ลำ พร้อมลูกเรือ จำนวน 15 ราย 

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับคาอู่ \"เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ\" ผิดกฎ IUUโทษหนัก

โดยแยกตามพฤติการณ์
เป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 : เรือประมงจำนวน 3 ลำ ได้แก่

1. เรือ KM.EDBERT JAYA 5 ขนาด 30ตันกรอส เป็นเรือประมงของ นายพิทักษ์ อิ่มทั่ว อายุ 60 ปีชาว จ.ปัตตานี ตรวจพบลูกเรือ 3ราย

2. เรือ KM.KILAT MAJU JAYA 65 ขนาด 148 ตันกรอส เป็นเรือประมงของ นายพิทักษ์ อิ่มทั่ว ตรวจพบลูกเรือ 3 ราย

3. เรือ KM.HASIL MELIMPAH 12 ขนาด 30 ตันกรอส เป็นเรือประมงของ นายพิทักษ์ อิ่มทั่ว ตรวจพบลูกเรือ 3 ราย

 

เรือกลุ่มนี้ตรวจพบว่ามีการปลอมแปลงชื่อบริเวณหัวเรือ จากชื่อเรือมาเลเซีย เป็นชื่อเรือและประดับธงอินโดนีเซีย ก่อนเดินทางออกจากท่าเทียบเรือ ประเทศมาเลเชีย มายัง อู่เรือศรีสงขลา จ.สงขลา โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร รวมทั้งไม่แจ้งกรมประมงและกรมเจ้าท่า

กลุ่มที่ 2 : เรือประมงจำนวน 2 ลำ ได้แก่

1. เรือ JADE 3 EKS.FU YUAN YU 793 ขนาด 210 ตันกรอส เป็นเรือประมงของ นางสมสวย คงวัดใหม่อายุ 65 ปี ชาวจ.ปัตตานี ตรวจพบลูกเรือ 3 ราย

2. เรือ JADE 5 EKS.FU YUAN YU 794 ขนาด 207 ตันกรอส เป็นเรือประมงของ นายสุรัตน์ บัวผุด อายุ55 ปี ชาวจ.ปัตตานี ตรวจพบลูกเรือ 3 ราย
เรือกลุ่มนี้ตรวจพบว่ามีการปลอมแปลงชื่อบริเวณหัวเรือ ปิดบังอำพรางชื่อและสัญชาติเรือ โดยการประดับธงชาติอินโดนีเชียเช่นกัน ก่อนเดินทางออกจากท่าเทียบเรือ ประเทศมาเลเซีย มาจอดพักที่ท่าเทียบเรือ อ.ตากใบจ.นราธิวาส และเดินทางมายังอู่เรือศรีสงขลา จ.สงขลา โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร รวมทั้งไม่แจ้งกรมประมงและกรมเจ้าท่า เช่นเดียวกัน

 

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับคาอู่ \"เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ\" ผิดกฎ IUUโทษหนัก

เรือประมงทั้ง 5 ลำมีลูกเรือรวมทั้งสิ้น 18 ราย เป็นบุคคลสัญชาติไทยจำนวน 16 ราย กัมพูชา 2 ราย และเมียนมา 1 ราย และมีพฤติการณ์ในการแจ้งข้อมูลการเข้าออกท่เทียบเรือช้ากว่าที่กำหนด และตัวแทนเรือดังกล่าวมีการยื่นเอกสารสำแดงเป็นเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซีย แต่รายละเอียดในเอกสารไม่ตรงกับตัวเรือจริง ทั้งสัญชาติขนาดและเครื่องยนต์


การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน "ลักลอบนำเข้าเรือประมงเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร" ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ, " ปลอมแปลงหรือปิดบังเครื่องหมายเรือประมงหรือทะเบียนเรือประมง" ซึ่งเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 มีโทษปรับตามขนาดเรือ ตั้งแต่ 6 แสนถึง 30ล้านบาท ซึ่งเรือประมงทั้ง 5 ลำจะต้องถูกปรับเป็นวงเงินรวมกันถึง 67.8 ล้านบาท


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และประธานคณะทำงานฯ ได้กล่าวย้ำว่า"ประเทศไทยต้องเป็นผู้นำต่อต้าน IUU ในอาเซียน รวมถึงไม่มีการประมง IUUทั้งระบบ โดย


1. เรือประมงถูกต้อง ไม่ว่าเรือไทย เรือสัญชาติอื่น ทุกลำต้องมีทะเบียน มีสัญชาติเดียว และต้องแจ้งเข้า-ออก ตามกฎหมายทุกฉบับ

 
2.การทำประมงถูกต้อง เรือประมงไทยจะจับปลาต้องมีใบอนุญาต เครื่องมือประมงต้องเป็นไปตามมาตรฐานไม่ทำลายล้างทรัพยากรทะเล ไม่มีการจับสัตว์ทะเลคุ้มครอง สัตว์ทะเลสงวน เช่น โลมา วาฬ พะยูน รวมถึงการจับปลาในเขตพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ชายฝั่ง โดยเด็ดขาด และสุดท้าย 


3. แรงงานประมงบนเรือถูกต้อง ทุกคนต้องเป็นแรงงานที่เข้าตามระบบ ได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ ครบถ้วน มีเวลาทำงาน เวลาพักตามกฎหมาย ไม่มีแรงงานเด็กแรงงานบังคับ ไม่มีการขนถ่ายแรงงาน ค้ามนุษย์ทั้งกลางทะเลและบนบก โดยเด็ดขาด เช่นเดียวกัน ผมได้กำชับ

 

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับคาอู่ \"เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ\" ผิดกฎ IUUโทษหนัก
เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการทำงานว่า ผมเอาจริง และตั้งใจเต็มที่ ในการตัดเนื้อร้าย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ให้ออกจากภาคประมงไทย คนเหล่านี้ต้องไม่มีที่ยืน ขณะเดียวกันพี่น้องชาวประมงที่ดีจะได้รับความคุ้มครองดูแลจากภาครัฐอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า ประเทศไทยในฐานะ "รัฐเจ้าของท่า" (Port State) ยังคงมีระบบการควบคุมและเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น เราได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าหน่วยงานของรัฐ NGOs และพี่น้องชาวประมงที่ต้องการเห็นทะเลไทย ไร้ IUUจากปฏิบัติการวันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)กรมประมง กรมเจ้าท่า และกรมศุลกากร จะดำเนินการ "ตรวจเข้ม" อู่เรือประมง ท่าเทียบเรือประมง และท่าเทียบเรือสนับสนุนการประมงทุกแห่ง เพื่อ "ขจัด" เรือประมงผิดกฎหมายเหล่านี้ให้หมดสิ้น และหากพบว่า "มีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่" ก็จะดำเนินการเอาผิดโดยเด็ดขาด

 

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยจับคาอู่ \"เรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ\" ผิดกฎ IUUโทษหนัก

สำหรับการเดินทางมาตรวจสอบเรือประมงทั้ง 5ลำในวันนี้ ได้ออกหมายจับไปแล้ว18คนเป็นเจ้าของเรือ3คนและลูกน้อง15คนและเร็วๆนี้จะมีการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกและเรือประมงที่จับมาได้ทั้ง5ลำมี1ลำที่ล่าปลาโลมา11ตัวมาฆ่าที่บนเรือ และขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงพฤติการณ์ในการกระทำผิดลักษณะดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้ทราบถึงลักษณะการทำประมงที่เป็นความผิดตามกฎหมาย

นอกจากนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวสามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เต็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ