เฝ้าระวัง 7 วันอันตราย ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 คุมเข้ม 4 ดอย ป้องกันอุบัติเหตุ

ปภ.เชียงใหม่ เฝ้าระวัง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2565 คุมเข้มดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง และดอยคำ ป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมใช้กล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติพื้นที่ดอยสะเก็ด จอมทอง ควบคู่กล้องตรวจจับหมวกนิรภัยอัตโนมัติพื้นที่เมืองเชียงใหม่ สันทราย แม่ริม หางดง สารภี

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 64 นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 โดยกำหนดตั้งในระดับจังหวัด และ ระดับอำเภอ โดยมีช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 64 - 4 ม.ค. 65

ขณะเดียวกันได้กำหนดให้มีการจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการและด่านชุมชนในพื้นที่ครอบคลุม ทั้ง 25 อำเภอ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ปฏิบัติตามแนวทาง “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยเน้นใช้มาตรการเชิงรุก ทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมาย และสร้างความตระหนัก เพื่อลดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งมีเป้าหมายในการให้ผู้ขับขี่ปละผู้โดยสารรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสาร ร้อยละ100
 

สำหรับแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 ในปีนี้ตั้งเป้าลดลงร้อยละ 5 ของการเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ภายใต้โครงการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดยใช้มาตรการ “10 รสขม” ได้แก่ 1 ร. ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, 2 ส. คือ ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และไม่ขับรถย้อนศร, 3 ข. คือ มีใบขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่แซงในที่คับขัน, 4 ม. คือ ไม่ขับขี่รถขณะเมาสุรา สวมหมวกนิรภัย ไม่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ปลอดภัย และไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
 

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการตรวจแอลกอฮอล์ ควบคุมสถานบริการ อย่างเคร่งครัด เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทำให้ต้องมีความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันได้เพิ่มความเข้มข้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะ 4 ดอย ได้แก่ ดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง และดอยคำ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเส้นทางที่ลาดชันสูง ต้องใช้ความชำนาญในการขับขี่ จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ในจุดเฝ้าระวังห้ามรถโดยสารขนาดใหญ่ขึ้นดอยเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ทาง รวมทั้งได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย โรงพยาบาล บุคลากร เครื่องมือ ยานพาหนะ และระบบสื่อสาร ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกันได้ดำเนินการจัดตั้งด่านชุมชนในอำเภอกลุ่มเสี่ยง พร้อมนำนวัตกรรมกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติมาใช้ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอจอมทอง พร้อมกันนั้นได้นำกล้องตรวจจับหมวกนิรภัยอัตโนมัติมาใช้ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย แม่ริม หางดง และสารภี