ลำปาง-พิจิตร พบติดเชื้อ "โอมิครอน" รายแรกของจังหวัด

ลำปาง-พิจิตร พบติดเชื้อ "โอมิครอน" รายแรกของจังหวัด

เกาะติด "โอมิครอน" โควิดสายพันธุ์ใหม่ ลำปาง-พิจิตร พบติดเชื้อรายแรกของจังหวัด

ลำปาง เผยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกของ จ.ลำปาง เป็นแม่บ้านรับจ้างทำความสะอาดที่สวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยสถานการณ์ ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จ.ลำปาง (ตั้งแต่ วันที่ 27 มิถุนายน 2564-ปัจจุบัน) พบยอดผู้ป่วยสะสม 3,344 ราย หายแล้วกลับบ้านสะสม 3,164 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 155 ราย และเสียชีวิตสะสม 25 ราย 

โดยล่าสุดพบ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากนอกจังหวัด 5 ราย คือ เชียงใหม่ 2 ราย ลำพูน 2 ราย กรุงเทพฯ 1 รายและ กลับจากสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 23 ราย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ พนักงานบริษัทบัตรเครดิตและสินเชื่อ อ.แจ้ห่ม 2 ราย คลัสเตอร์ครอบครัว ถนนท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง 1 ราย คลัสเตอร์ ร้านประดับยนต์ อ.เมืองลำปาง 6 ราย คลัสเตอร์ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านวังหม้อ อ.เมืองลำปาง 4 ราย คลัสเตอร์ เทศบาลตำบลบ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง 1 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงของผู้ป่วยเดิม 6 ราย คือ อ.เมืองลำปาง 3 ราย อ.ห้างฉัตร 3 ราย และเป็นผู้ป่วยใหม่ 3 ราย อ.เมืองลำปาง ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

กรณี ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกของ จ.ลำปาง เป็นเพศหญิง อายุ 50 ปี ภูมิลำเนา ต.บ้านกิ่ว อ.แม่ทะ อาชีพรับจ้างทำความสะอาดบ้านที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาการปัจจุบันที่พบ คือ อาการ ไอ เจ็บคอ คอแห้ง มีประวัติการได้รับวัคซีน เข็ม 1 ไฟเซอร์ (Pfizer)วันที่ 23 ก.ค.2564 เข็ม 2 ไฟเซอร์ วันที่ 20 ส.ค. 564 โดยมีประวัติการเดินทางและผลการตรวจหาเชื้อ

โควิด-19 ดังนี้ :วันที่ 23 ธ.ค.2564 เวลา 13.10 น.ขึ้นเครื่องบินเดินทางมาประเทศไทย โดยสายการบิน Swiss เที่ยวบิน : LX 180 เลขที่นั่ง: 25H ผลการตรวจ RT-PCR ก่อนออกเดินทาง negative ใส่หน้ากากอนามัยตลอดในขณะเข้าห้องน้ำบนเครื่องบิน ถอดหน้ากากเฉพาะตอนรับประทานอาหาร 

 วันที่ 24 ธ.ค.2564 เวลา 06.00 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ไปโรงแรมเพื่อ Check in

เวลา 10.30 น. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (RT-PCR) ที่โรงแรม โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 

เวลา 11.30 น. เข้าห้องพัก อยู่คนเดียว

เวลา 20.00 น. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ แจ้งผลการตรวจ RT-PCR ผลไม่พบเชื้อ 

เวลา 20.30 น. ซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อคนเดียวใส่หน้ากากตลอด ใช้เวลา 30 นาที 

เวลา 21.00 น. กลับเข้าห้องพัก อยู่ห้องพักคนเดียว ไม่ได้ออกไปที่ใด

ทั้งนี้ ขอให้ชาวลำปาง อย่าตระหนก แต่ให้ตระหนัก และขอให้เชื่อมั่นว่าจ.ลำปาง สามารถควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวได้ ในเทศกาลปีใหม่ซึ่งใกล้จะถึงนี้ ขอความร่วมมือชาวลำปางทุกท่านป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ด้วยมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด ได้แก่ การออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น งดงานเลี้ยงสังสรรค์ หรือกิจกรรมที่ต้องมีการรวมกลุ่มกัน การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลหมั่นตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงจากการป่วยรุนแรง และลดอัตราการ เสียชีวิต สามารถติดต่อขอรับบริการฉีดวัคซีนได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนทุกอำเภอ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.00-16.00น.

พิจิตรพบติดเชื้อโอมิครอนรายแรก   

นายแพทย์อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร เปิดเผยผลตรวจผู้ป่วยหญิงอายุ 33 ปี ชาวอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกของจังหวัดพิจิตร โดยผู้ป่วยรายดังกล่าว เดินทางไปทำธุรกิจกับน้องชาย ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 12-21 ธันวาคม 2564 โดยตรวจโควิด-19 ทางโพรงจมูกเมื่อเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 19 ธันวาคม 2564 จากนั้นเมื่อเดินทางกลับประเทศไทยและตรวจอีกครั้งในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ไม่พบเชื้อ จนกระทั่งวันที่ 26 ธันวาคม 2564 มีอาการไข้ จึงไปพบแพทย์และตรวจพบเชื้อที่โรงพยาบาลพิจิตร ซึ่งได้ส่งตรวจหาสายพันธ์โอไมครอน และทราบผลเวลาประมาณ 18.50 น.ของวันที่ 28 ธันวาคม 2564

โดยผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาในห้องแยกโรค โรงพยาบาลพิจิตร อาการดีขึ้น ส่วนน้องชายผู้ป่วยทีู่ไบด้วยกันเป็นผู้เสี่ยงสูงอยู่ระหว่างการกักตัว และรอตรวจซ้ำตามมาตรการทางสาธารณสุข และยืนยันผู้ป่วยไม่มีการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น เนื่องจากผู้ป่วยเข้ารับการตรวจพบเชื้อและเข้ารักษาตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2564 

ขณะนี้ จังหวัดพิจิตร ยังไม่มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนเพิ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งตรวจหาสายพันธุ์โอมิครอน ดังนั้น ขอให้ชาวพิจิตรอย่าตื่นตระหนก วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะบูสเตอร์เข็ม 3 จะป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนได้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานสาธารณสุจจังหวัดพิจิตร ร่วมกับโรงพยาบาลทุกแห่งรณรงค์ให้ฉีดเข็ม 3 ในทุกอำเภอ