ปลุกม็อบหลายจังหวัด "ผู้ค้าสลาก" ร้องค้าน "ยกเลิกสิทธิ์"

สถานการณ์ ปลุกม็อบหลายจังหวัด "ผู้ค้าสลาก" ร้องขอความเป็นธรรม ค้าน "ยกเลิกสิทธิ์"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา ตัวแทนผู้ค้าสลากเสรีรายย่อยจังหวัดพะเยา ประมาณ 50 คน ได้รวมตัวกันร้องขอความเป็นธรรมต่อนายเทวา ปัญญาบุญ ปลัดจังหวัดพะเยา

ปลุกม็อบหลายจังหวัด \"ผู้ค้าสลาก\" ร้องค้าน \"ยกเลิกสิทธิ์\"

 กรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาสได้มีมติยกเลิกบัญชีรายชื่อผู้ลงทะเบียนโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าลลากกินแบ่งรัฐบาลในปี 2558 ทั้งหมด เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 และจะมีการเปิดรับสมัครลงทะเบียนใหม่

โดยใช้วิธีทำการสุ่มด้วยวิธีการทางระบบคอมพิวเตอร์จากผู้สมัครรายใหม่มาแทนบัญชีผู้ลงทะเบียนสลากเสรี ปี 2558 ผลของมติดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างกับผู้ค้าสลากในโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าลลากทั้งประเทศ

นางอมรา อนุสาสนันท์ ตัวแทนฯ กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้ค้าสลากในจังหวัดพะเยาในส่วนของผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ค้สลากในโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ค้าสลากรายย่อยตัวจริง และได้รับผลกระทบจากการมีมติตังกล่าวของทางสำนักงานสลากฯ ด้วยเช่นกัน เหตุผลก็คือหากมีการลงทะเบียนใหม่แล้วทางผู้คำรายย่อยตัวจริงไม่ได้รับสิทธิ์ จะเกิดผลกระทบตามมาก็

คือ เกิดการขาดรายได้ และการว่างงานในทันที เนื่องจากมติดังกล่าวไม่มีเรื่องการช่วยเหลือเรื่อง การขาดรายได้และการว่างงานของทางผู้ค้าสลากแต่อย่างใด

ดังนั้นจึงขอให้ทางสำนักงานสลากฯ ทบทวนมติที่ยกเลิกบัญชีผู้ลงทะเบียนจำหน่ายสลากเสรีปี 2558 อย่างไม่เป็นธรรม และนำบัญชีรายชื่อผู้ลงทะเบียนโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ค้าสลากรายย่อยตัวจริงต่อไป ส่วนการที่สำนักงานสลากฯ จัลงทะเบียนเพิ่มผู้ค้ำรายใหม่เข้ามาในระบบนั้นกลุ่มผู้ค้าสลากในจังหวัดพะเยาในส่วนของผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ค้าสลากในโครงการซื้อ-จองล่วงไม่มีขัดข้องแต่อย่างใด

นายเทวา ได้ให้ตัวแทนผู้ค้าฯ เข้าพบ และได้ข้อสรุปว่า จะรีบนำเอกสารของกลุ่มผู้ค้าสลากฯ นำเรียนผู้ว่าฯ เพื่อส่งให้ส่วนกลางพิจารณาช่วยเหลือตามระบบขั้นตอนของ ทางราชการต่อไป 

ผู้ค้าสลากฯสงขลา ยื่นศาลปกครองค้านคำสั่งยกเลิกสิทธิ์ผู้ซื้อจองสลากฯล่วงหน้า

ที่ศาลปกครองจังหวัดสงขลา ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อยรวมตัวกว่า 300 คนยื่นหนังสือต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งคุ้มครองผู้ค้าสลากฯ หากมีการยกเลิกโควต้าและลงทะเบียนใหม่ทั้งหมดเกรงว่าผู้ค้าสลากจะได้รับผลกระทบขาดรายได้ไร้ที่ทำมาหากิน

ด้านปรียาพร ทัดพิทักษ์ ผู้ค้าสลากพื้นที่สะเดา เปิดเผยว่า เมื่อกองสลากประกาศจะตัดสิทธิ์ ผู้ค้ารายย่อยทั้งหมด จะยึดคืนทั้งหมดโดยที่พวกเราไม่มีความผิด ได้กำไรมาเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวกองสลากมาตัดสิทธิ์แบบนี้มันไม่ได้ ควรตัดสิทธิ์แค่บางรายที่ทำผิดไม่ใช่ตัดสิทธิ์ทั้งหมด แล้วคนเก่าที่ไม่มีความผิดทำไมตนต้องลงทะเบียนใหม่ด้วย

นอกจากนี้ยังมีคุณยายกุ้ง วัย 86 ปี เป็นผู้ได้รับโควต้าตามระบบของรัฐ กล่าวว่า ตนค้าสลากฯเพื่อหาเลี้ยงชีพครอบครัวไม่มีอยู่ตัวคนเดียวหากรัฐตัดสิทธิ์โควต้าต้องลงทะเบียนใหม่ก็ไม่รู้ตะได้รับเลือกหรือไม่ เมื่อไม่มีสลากก็ไม่มีข้าวกิน

โดยผู้ค้าสลากฯรายย่อยสะท้อนว่าโควต้าที่ได้มาจำนวน 5 เล่มต่อคนนั้นก็มีการขายราคา 80 บาทตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ที่ราคาสลากมันแพงเพราะมีการรวมชุดและขอซื้อสลากเพิ่มจากผู้ค้ารายใหญ่ที่พื้นที่กรุงเทพบวกกับต้นทุนค่าขนส่งสลากซึ่งหากด่วนมากก็จจะจัดส่งผ่านทางสนามบินซึ่งค่าขนส่งผู้ค้ารายย่อยก็เป็นผู้รับภาระ

โดยเมื่อสำรวจราคาสลากจากผู้ค้ารายใหญ่ต้นทาง ราคาสลากชุดวันนี้พบว่าชุด 3 ใบราคา 107 บาทต่อใบ ชุด 5 ใบ ราคา 115 บาทต่อใบ ทั้งนี้ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่สงขลาที่มารวมตัวยื่นหนังสือต่อศาลปกครองวันนี้จะขอรอฟังมติของรัฐบาลอีกครั้งว่าจะมีการชะลอคำสั่งหรือมาตรการอย่างไรต่อไป และจะนัดรวมตัวและดำเนินการคัดค้านอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายต่อไป

300ผู้ค้านสลากรวมตัวค้านยกเลิกโควตา

เวลา 10.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช มีกลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนครศรีธรรมราชกว่า 300 คน นำโดยนายศิวกร ดีกลุ อายุ 44 ปี ผู้ค้าสลากฯ

พร้อมนำป้ายผ้า ระบุ เราคือผู้ค้าสลากเสรีตัวจริง , คัดค้าน ยกเลิกสลากเสรีรายเดิม พร้อมหนังสือยื่นต่อผู้ว่าราชจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่ามกลางความดูแลความสงบของเจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครอง

ก่อนจะมีนรงพัชรนันท์ ศรีเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมนครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนรับหนังสือข้อเรียกร้อง เพื่อนำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อไป

นายศิวกร ดีกูล อายุ 44 ปี ตัวแทนผู้ค้าสลากฯ กล่าวว่า ยอมรับว่านโยบายยกเลิกผู้ค้าสลากฯ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ค้าสลากเสรี เนื่องจากจะทำให้ตกงาน หากไม่สามารถลงทะเบียนโควตาให้ได้

จึงเรียกร้องให้ชะลอ ทบทวน ขยาย หรือยกเลิกไปก่อน จนกว่าจะมีแนวทางแก้ปัญหาราคาสลากแพงที่ดีกว่าการยกเลิกโควต้าผู้ค้าสลากทั้งหมด