รายงานศึกษาโอมิครอนชี้วัคซีนที่ใช้อยู่หลายบริษัทอาจเอาไม่อยู่

รายงานศึกษาโอมิครอนชี้วัคซีนที่ใช้อยู่หลายบริษัทอาจเอาไม่อยู่

ผลศึกษาของมหาวิทยาลัยวอชิงตันและ Humabs Biomed SA บริษัทเวชภัณฑ์ของสวิตเซอร์แลนด์บ่งชี้ว่า วัคซีนซิโนฟาร์มของจีน, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันของสหรัฐ และสปุตนิกของรัสเซีย มีประสิทธิภาพต่ำในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยวอชิงตันและ Humabs Biomed SA ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า วัคซีนซิโนฟาร์มของจีน, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันของสหรัฐ และสปุตนิกของรัสเซีย มีประสิทธิภาพต่ำในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

รายงานระบุว่า ผู้ทื่ได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มครบโดสจำนวน 3 จาก 13 รายเท่านั้นที่ร่างกายสามารถสร้างแอนติบอดีต้านทานโอมิครอน และผู้ที่ได้รับวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มีเพียง 1 จาก 12 รายเท่านั้นที่มีภูมิต้านทาน ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนสปุตนิกจำนวน 11 ราย ไม่มีแม้แต่รายเดียวที่มีภูมิต้านทาน
   รายงานยังระบุว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสของไฟเซอร์/ไบออนเทค, โมเดอร์นา รวมทั้งแอสตร้าเซนเนก้า ต่างก็มีแอนติบอดีต่ำเช่นกัน
   อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และได้รับวัคซีนครบโดสของไฟเซอร์/ไบออนเทคจะมีการลดลงของแอนติบอดีน้อยที่สุด โดยลดลงเพียง 5 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสของไฟเซอร์/ไบออนเทค แต่ไม่เคยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะลดลงมากถึง 44 เท่า
    ขณะนี้ ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้ระบาดไปยัง 77 ประเทศทั่วโลก หลังจากมีการตรวจพบไวรัสดังกล่าวครั้งแรกที่แอฟริกาใต้ไม่ถึง 1 เดือน โดยโอมิครอนสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง 70 เท่า