กรุงศรีฟินโนเวต ลุ้น IPO กองทุนสตาร์ทอัพ บุคคลรายใหญ่ ระดมทุนเต็มวันแรก

กรุงศรีฟินโนเวต ลุ้น IPO กองทุนสตาร์ทอัพ บุคคลรายใหญ่ ระดมทุนเต็มวันแรก

“กรุงศรี ฟินโนเวต” เผยพบนักลงทุน 3 องค์กรใหญ่ “ตลท.-โออาร์-สยามราชธานี” ร่วมลงทุนกองทุน "ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ I” มากกว่า 50% ของมูลค่าพันล้าน ลุ้นระดมทุนได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันแรก วางเป้าดัน 3 สตาร์ทอัพสู่ยูนิคอร์น

นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุด กองทุน "ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ I” ได้เปิดระดมทุมในกองทุนจากนักลงทุนสถาบันรอบแรก พบว่า มีนักลงทุนกลุ่มแรก 3 องค์กรใหญ่ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) , บมจ. ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก (OR) และ บมจ.สยามราชธานี (SO) ร่วมลงทุนในสัดส่วนมากกว่า 50% ของมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดจะมีนักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุนเพ่ิ่มเติมอีกในปีหน้า 

ทั้งนี้ เตรียมเปิดเสนอขายให้กับนักลงทุนรายบุคคลประเภทรายใหญ่พิเศษ เสนอขายครั้งเดียวระหว่าง 16 -22 ธ.ค.นี้ คาดระดมทุนได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันแรก หรือในช่วงเปิด IPO หากนักลงทุนยังมีความต้องการระดมทุนเพิ่มสามารถขยายวงเงินกองทุนเพิ่มได้ 

สำหรับกองทุน "ฟินโนเวนเจอร์ ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ I” มีมูลค่า 3,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนกรุงศรี ฟินโนเวต มูลค่า 500 ล้านบาท นักลงทุนรายบุคคลประเภทรายใหญ่พิเศษ (UHNWI) 1,500 ล้านบาท และอีก 1,000 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันและองค์กรขนาดใหญ่

กองทุนจะทยอยนำเงินไปลงทุนขั้นต่ำ 1,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี 2565-2567) มีเป้าหมายเพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทยและอาเซียนที่มีศักยภาพ และอยู่ในระดับซีรี่ส์ A ขึ้นไป โดยมีกรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุนในเครือกรุงศรี กรุ๊ป เป็นผู้จัดการทรัสต์ ดูแล บริหารการลงทุน และคัดเลือกสตาร์ทอัพที่จะเข้าลงทุน ซึ่งจะโฟกัสสตาร์ทอัพใน 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มฟินเทค อีคอมเมิร์ซ และออโตโมทีฟ (ยานยนต์) เน้นไปที่การสร้างโอกาสทางธุรกิจและการสร้างความร่วมมือระหว่างกลุ่มสตาร์ทอัพและกลุ่มนักลงทุนองค์กร ที่ได้เข้ามาร่วมลงทุน  

 

สำหรับ คาดการณ์ผลตอบแทนกองทุนนี้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปีหรือเทียบเท่ากับการลงทุนสตาร์ทอัพในกองแรก ซึ่งการลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นการลงทุนระยะยาว สููงสุด 10 ปี ซึ่งในปีที่ 3 ถึงปีที่ 7 ถึงจะเริ่มสร้างผลตอบแทน 

การระดมทุนของกรุงศรีฟินโนเวตปี 2565 ยังอยู่ในวงเงิน 3,000 ล้านบาท  ถือว่าเพียงพอ แต่หากการลงทุนที่น่าสนใจสามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้ ตั้งเป้าหมายกองทุนใหม่ จะสนับสนุน 3 สตาร์ทอัพไปสู่เป็นยูนิคอร์น ด้วยวงเงินที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ขยายธุรกิจได้เร็วขึ้นกว่าเดิมที่ในช่วงระดมถึงใช้เวลา6 เดือนถึง 1 ปี 

จากปีที่ผ่านมา กรุงศรีฟินโนเวต มีการลงทุนแล้ว 15 สตาร์ทอัพเป็นเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท ซึ่งมี2 สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จแล้ว กิจการที่ประสบความสำเร็จ เฟลช เป็นยูนิคอร์นและแกร๊บ เข้าจดทะเบียนในตลาดแนสแด็กแล้ว และกองทุนเดิมมี 4-5 สตาร์ทอัพเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดทั้งในและต่างประเทศในปี 2566 เป็นต้นไป