วุ่น! คลัสเตอร์เรือนจำพิษณุโลก ตรวจเชื้อพบผลบวก 1,559 ราย เร่งคุมโควิดระบาด

ตรวจ ATK กลุ่มผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก 2,190 ราย พบผลบวก 1,559 ราย ให้ยาฟาวิฯ 200,000 เม็ด แก่ผู้ต้องขังทุกคน 2,550 คน พร้อมจะเปิดโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำคาดว่าจะคลี่คลายก่อนปีใหม่นี้

ที่ห้องประชุมบุญญวงศ์วิโรจน์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. 64 นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก , นายแพทย์ ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก , นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช และ นาย มงคล จันทะจร ผู้บัญชาการเรือนจังหวัดพิษณุโลก ตั้งโต๊ะแถลงข่าวความคืบหน้าของการดำเนินการต่อการแพร่ระบาดของโควิด – 19 คลัสเตอร์ใหญ่ ในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ที่วานนี้ได้มีการตรวจ ATK ไปจำนวน 2,190 ราย แล้วปรากฏว่า มีผลเป็นบวก ถึงจำนวน 1,559 ราย

โดยวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่บุคคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับโรงพยาบาลวังทอง เข้าไปทำการ RT-PCR แก่ผู้ต้องขังที่มีผลตรวจเป็นลบอีกครั้ง โดยตรวจแบบสุ่ม ร้อยละ 20 และให้ยาทุกราย 50 เม็ด /คน /5 วัน โดยผลยังไม่ออกมา และยังได้ขอยาดังกล่าวเพิ่มเติมจากส่วนกลางมาเพิ่มอีก 150,000 เม็ด จากเดิมมีอยู่ 50,000 เม็ด

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่ พบผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก แล้ว 1,559 ราย จากการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ทั้งนี้ ในเบื้องต้น และพบว่ามีผู้ป่วยสีเหลือง จำนวน 1 ราย ได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว พร้อมกันนี้จะได้นำเครื่องเอกซเรย์ปอดเข้าไปตรวจแทนตั้งแต่ 17.00 น. และหากพบว่ามีการติดเชื้อลงสู่ปอดจะนำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลในทันที ส่วนผู้ต้องขังที่ไม่มีอาการจะรักษาด้วยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ภายในเรือนจำ

“โดยมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดคลัสเตอร์เรือนจำได้ เนื่องจากเป็นสถานที่ปิด และมีมาตรการบริหารจัดการตามแผนสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้ว เชื่อมั่นว่าการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส covid-19 ในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความหย่อนยานมาตรการด้านสาธารณสุขภายในเรือนจำพิษณุโลก เนื่องจากผู้ต้องขังรายใหม่ที่จะเข้าไปภายในเรือนจำจะต้องมีการคัดกรอง และกักตัวตามมาตรการที่เข้มข้นอยู่แล้ว โดยการสืบสวนโรคยังไม่สามารถสันนิษฐานว่าอาจจะแพร่ระบาดมาจาก เกิดจากสาเหตุอะไรได้ และยังได้เตรียมการเปิดโรงพยาบาลสนามขนาด 500 เตียง โดยใช้บุคลากรจากโรงพยาบาลในจังหวัด และโรงพยาบาลเอกชน จะเปิดตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป อีกทั้งวันพรุ่งนี้ จะมีรถตรวจเชื้อพระราชทาน 2 คัน เข้าไปตรวจเพื่อหาเชื้อสำหรับคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถควบคุมสภถานการณ์ได้ภายในก่อนปีใหม่นี้ ส่วนสาเหตุของการเกิดคลัสเตอร์ในครั้งนี้ ทาง ศคบ.พิษณุโลก จะเร่งทำการสอบสวนอีกครั้ง

นายมงคล จันทะจร ผู้บัญชาการเรือนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า คลัสเตอร์นี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 10 - 11 ธ.ค. 64 ปรากฏมีมีผู้ต้องขังในแดน 4 ป่วยมีอาการเป็น ไข้ หนาวสั่น มีน้ำมูกไหล เจ็บคอ แล้วเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของเรือนจำหลายราย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสุ่มตรวจ ATK แก่ผู้ต้องขัง จำนวน 505 คนแรก ผลเป็นบวก จำนวน 259 คน ผลเป็นลบ 246 คน ต่อมาในวันที่ 12 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ของ อำเภอวังทอง ได้เข้าดำเนินการสอบสวนโรคตามกระบวนการ และดำเนินการปูพรมตรวจ ATK ผู้ต้องขัง (แดน4) ทุกราย ด้วยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 1,954 ราย พบผลเป็นบวก จำนวน 1,501 ราย ผลเป็นลบ จำนวน 453 ราย ผู้ต้องขังที่มีผลตรวจเป็นบวกได้จ่ายยาทันทีส่วนผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นลบได้ดำเนินการคัดแยกเพื่อเฝ้าดูสังเกตอาการ

ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวังทอง ที่ได้เร่งในการควบคุมและดูแลรักษาโรคให้อยู่ในความเรียบร้อย ขอฝากญาติผู้ต้องขังทุกท่านสบายใจได้ไม่ต้องเป็นห่วง ทางเจ้าหน้าที่จะดูแลผู้ต้องขังที่ป่วย ให้หายเร็วที่สุด ทางเรือนจำได้มีมาตรการป้องกันโควิด ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขทุกขั้นตอน