ศาลสั่งจำคุก "แอมมี่" 4 เดือน คดีสาดสีใส่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์

ศาลสั่งจำคุก "แอมมี่" 4 เดือน คดีสาดสีใส่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์

ศาลสั่งจำคุก "แอมมี่ The Bottom Blues" 4 เดือน คดีสาดสีตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี พร้อมให้ประกันตัวในวงเงิน 2 หมื่นบาท

วันนี้ (8 ธ.ค.) ศาลแขวงดุสิตนัดฟังคำพิพากษาในคดีของนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ The Bottom Blues” ศิลปินแนวร่วมราษฎร ในคดี “สาดสี” ใส่ตำรวจ ที่หน้า สน.สำราญราษฎร์ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 63 ที่กลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ได้รับหมายเรียกจากการเข้าร่วมชุมนุม #เยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 รวม 15 ราย ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.สําราญราษฎร์ และได้มีมวลชนไปรวมตัวให้กำลังใจ แต่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรอบพื้นที่พร้อมแผงเหล็กกั้นถึงสองชั้น ไม่ให้ประชาชนที่มาให้กำลังใจเข้าไปในพื้นที่หน้า สน. ก่อนผู้ชุมนุมจะพยายามดันแผงเหล็กเข้าไป และแอมมี่ ได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยใช้ถังสีพลาสติก “สีน้ำเงิน” สาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนประชาชนสามารถเข้าไปยืนบริเวณลานจอดรถใต้ถุน สน.สำราญราษฎร์ ได้สำเร็จ
 

คดีนี้ "แอมมี่"  ถูกฟ้องทั้งหมด 3 ข้อหา ได้แก่ “ทําร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391, “ทำให้เสียทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 และ “ทำให้ปรากฏซึ่งรูปรอยใดๆ บนถนนหรือที่สาธารณะ” ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12

 

ศาลสั่งจำคุก \"แอมมี่\" 4 เดือน คดีสาดสีใส่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์

     ต่อมาศาลได้อ่านคำพิพากษาโดยสรุปว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องจริง ทั้ง 3 ข้อหา และจำเลยยังได้รับสารภาพในข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์” จากการสาดสีใส่ตำรวจ และมีการชำระค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายไปแล้ว 50,000 บาท ด้านผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความและสืบพยานต่อ ศาลจึงพิพากษาลงโทษในทั้งสามข้อหา โทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 40,000 บาท ให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งเหนือ เหลือจำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี โดยให้รายงานตัวคุมประพฤติ 1 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง 

ศาลสั่งจำคุก \"แอมมี่\" 4 เดือน คดีสาดสีใส่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์

ภายหลังทนายความได้ยื่นประกันตัว "แอมมี่" โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงิน 20,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ก่อนที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยทนายความจะหารือกับจำเลยต่อไปเรื่องการยื่นอุทธรณ์คดี เนื่องจากเห็นว่าได้จัดทำคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ เรื่องข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้มีเจตนา แต่เป็นเพียงเหตุชุลมุนระหว่างเหตุการณ์ ไม่ได้ตั้งใจผลักแผงเหล็กไปโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ศาลไม่ได้นำมาพิจารณาประกอบ