"นายกฯ" ย้ำ"กอ.รมน." ไม่ใช่หน่วยงานทางการเมือง โอด อย่าให้หนักใจทุกเรื่อง

"นายกฯ" ย้ำ"กอ.รมน." ไม่ใช่หน่วยงานทางการเมือง โอด อย่าให้หนักใจทุกเรื่อง

"นายกฯ" แจง "กอ.รมน." ไม่ใช่หน่วยงานทางการเมือง บอก มีหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานปกติ  บอกการเมืองเป็นหน้าที่ ครม. โอดอย่าให้นายกฯต้องหนักใจทุกเรื่อง อย่าเอาอะไรมาผูกมัดซึ่งกันและกัน 

8 ธ.ค.2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการส่งมอบนโยบายกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.ว่า วันนี้เป็นการประชุมของ กอ.รมน.ในปีงบประมาณ 2564 ซึ่งมีการรายงานผลการปฏิบัติในปีงบประมาณ 2564 ต้องขอขอบคุณทุกส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ช่วยกันสนับสนุนร่วมกัน และดำเนินการกันในกรอบของ กอ.รมน. ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.รมน.อยู่แล้ว อะไรก็ตามที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็น ผอ.รมน.อยู่แล้ว

พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่หน่วยงานการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานปกติ การใช้การแก้ปัญหาไข ปัญหาในทุกพื้นที่ ทั้งภาคใต้ ทั้งการเมืองการพัฒนานำการทหาร และทหารมีหน้าที่ในการสนับสนุน สภาวะแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ส่วนการเมืองวันนี้ ก็มีการทำกันอยู่แล้วในส่วนของราชการ ซึ่งทำตามมติของ ครม. และแผนงานโครงการที่รัฐบาล ซึ่งก็มาจากฝ่ายการเมืองทั้งสิ้นพร้อมกับขอกรุณาเข้าใจกันให้ถ่องแท้สักที

โดย นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมผลงานการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ประจำปีงบประมาณ 2564 แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายอย่างที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ทบทวน สิ่งใดที่มีผลสำเร็จแล้วก็เตรียมทำต่อ สิ่งใดที่มีปัญหาอยู่ก็แก้ไขปัญหา สิ่งใดที่ยังไม่ได้ทำก็ทำ ผ่อนได้ ให้นโยบายไปหมดแล้วในการประชุม ก็ได้รับการแถลงผลงาน และมีแผนแม่บทต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติแผนปฏิรูป แผนสภาพัฒน์ ฉบับที่ 13 ในปี 2565 หากไม่มีหลักการเหล่านี้ก็จะไม่สามารถเดินหน้าประเทศไทย ได้ไม่เกิดความยั่งยืน ไม่มีกรอบในการดำเนินการ ทุกอย่างจะต้องมีการวางแผนและเป็นไปตามแผน ตามระยะเวลาที่กำหนดและการประเมินผล ที่จะเกิดขึ้น  

ต้องขอบคุณทุกคน ส่วนตนให้ความสำคัญกับเรื่องโครงการความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รวมไปถึงชุมชนและหมู่บ้าน เมื่อทุกตำบลเป็นอย่างนี้ได้ อำเภอก็จะเข้มแข็ง จังหวัดก็จะดีขึ้นในหลายมิติ ทำอาชีพ รายได้การประกอบการ โดยเฉพาะภาคการเกษตร นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะทำอย่างไร ให้มีรายได้ที่เพียงพอและยั่งยืน จะต้องมีการปรับเปลี่ยนในอนาคตหลายอย่าง เข้าถึงปัญหาและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด จึงจะสามารถเดินหน้าประเทศไปได้ด้วยดี ทุกคนมีความเดือดร้อนลำบากโดยเฉพาะในช่วงยุคโควิด รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว  ที่จะพัฒนาประเทศมากพอสมควรในสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ทุกคนร่วมมือกันฉีดวัคซีน สวมหน้ากากอนามัย มาตรการด้านสาธารณสุข ทุกอย่างจะไปได้ทั้งหมด ขอให้นายกรัฐมนตรีอย่าต้องหนักใจ ในทุกๆ เรื่อง เพราะอยากจะแก้ไขปัญหาทีละเรื่องให้หมดไป ไม่อยากให้มีอะไรมาผูกมัดซึ่งกันและกัน 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์