โควิด "โอมิครอน" 3 คำถามที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน

โควิด "โอมิครอน" 3 คำถามที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) โพสต์เฟซบุ๊กประเด็น "โควิดสายพันธุ์ใหม่" โอมิครอน (Omicron) ภายหลังจากที่บ้านเราพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวานนี้ โดยตั้งหัวข้อระบุ "คำถามที่ต้องการคำตอบ"

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กประเด็น "โควิดสายพันธุ์ใหม่" โอมิครอน (Omicron) ภายหลังจากที่บ้านเราพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.2564) โดยตั้งหัวข้อระบุ "คำถามที่ต้องการคำตอบ"
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- อัพเดต! ไทม์ไลน์ไทยเจอผู้ติดเชื้อ "โอมิครอน"รายแรก

 

หมอยง ได้พูดถึง "โควิดสายพันธุ์ใหม่" โอมิครอน (Omicron) ซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่พบใหม่ มีการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมากนั้น 

 

ข้อความระบุว่า โควิด-19 "โอมิครอน" คำถามที่ต้องการคำตอบ ทั่วโลกให้ความสนใจกับ covid-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นสายพันธุ์ที่พบใหม่ มีการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก สิ่งที่ต้องการคำตอบเร่งด่วน คือ

 

1.โอมิครอน ติดต่อง่ายจริงหรือไม่

 

ขณะนี้หลังจากพบสายพันธุ์โอมิครอนที่แอฟริกาตอนใต้ ไวรัสนี้ได้แพร่กระจายพบในประเทศต่างๆนอกทวีปแอฟริการวมแล้วเกือบ 50 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์นี้แพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดลตาอย่างแน่นอน โดยมีอำนาจการแพร่กระจายโรคมากกว่าสายพันธุ์เดลตาอย่างน้อย 2 เท่าขึ้นไปและในอนาคตสายพันธุ์นี้จะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา

 

2.โอมิครอน หลบหลีกภูมิต้านทานจากการติดเชื้อเดิมหรือวัคซีนได้หรือไม่ 

 

ผู้ป่วยติดเชื้อที่พบขณะนี้ มีจำนวนหนึ่งฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 เข็มและอีกจำนวนหนึ่งถึงแม้ว่าจะเคยเป็นโรคโควิด-19 มาก่อน ก็สามารถติดเชื้อได้ แสดงว่าภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นป้องกันได้แบบไม่สมบูรณ์ จึงเกิดการติดเชื้อได้ แต่เกือบทั้งหมดมีอาการลดลงหรือไม่มีอาการเลย วัคซีนยังสามารถป้องกันความรุนแรงของโรคได้ 

 

 

3.โอมิครอน ความรุนแรงของโรคเป็นอย่างไร

 

ในผู้ป่วยที่พบนอกทวีปแอฟริกา จำนวนมากกว่าพันรายส่วนใหญ่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ในทวีปแอฟริกาเองมีการรายงานเบื้องต้นในถิ่นระบาดของโรค พบว่าส่วนใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งไม่มีอาการ และที่เหลือส่วนใหญ่มีอาการน้อย อย่างไรก็ตาม คงต้องรอเพราะในระยะเริ่มต้นการติดเชื้ออาจจะยังมีอาการน้อย การเกิดปอดบวม หรือต้องเข้าโรงพยาบาลจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง คำถามข้อนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความรุนแรงอย่างไร คงต้องรอคำตอบอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็น่าจะรู้เรื่อง แต่แนวโน้มความรุนแรงลดลง

 

ความสำคัญของ โอมิครอน อยู่ที่ “ความรุนแรงของโรค” ว่าเชื้อนี้จะลดความรุนแรงลงหรือไม่ ถึงแม้ว่าโรคนี้จะแพร่กระจายได้เป็นจำนวนมาก และหลบหลีกภูมิต้านทานได้เป็นบางส่วน ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือผู้ที่เคยป่วยมาก่อน มีอาการน้อยมากหรือไม่มีอาการ เมื่อติดเชื้อแล้วไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ก็จะช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน เหมือนกับโรคทางเดินหายใจที่พบอยู่ขณะนี้

 

และในอนาคตความจำเป็นในการต้องตรวจกรองผู้สัมผัสทั้งหมด ก็ไม่มีความจำเป็น จะเป็นโรคทางเดินหายใจที่มักจะเป็นในเด็กที่ไม่มีภูมิต้านทาน หรือเคยติดเชื้อมาก่อน และเมื่อติดเชื้อแล้วก็จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น การติดเชื้อครั้งต่อไปก็จะไม่มีอาการ เป็นเพียงเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรงยิ่งขึ้นและเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีภูมิต้านทาน

 

โรคไวรัสทางเดินหายใจในผู้ที่แข็งแรงที่พบส่วนใหญ่ในขณะนี้จึงไม่ได้เป็นปัญหาสำคัญ จะเป็นปัญหาในกลุ่มเสี่ยงหรือร่างกายไม่แข็งแรง ในระยะเวลาอีกไม่นานก็คงรู้คำตอบจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่ขณะนี้ทุกคนตั้งใจรอ

 

 

CR เฟซบุ๊ก : หมอยง