จับตาเทรนด์เทคโนโลยี-เศรษฐกิจปี 2565

จับตาเทรนด์เทคโนโลยี-เศรษฐกิจปี 2565

หลังจาก 2564 ทำให้คำว่า “เวิร์กฟรอมโฮม” และเมตาเวิร์สเป็นที่จดจำของหลายคนในเวลาอันรวดเร็ว เทรนด์เทคโนโลยีใหม่สำหรับปี 2565 กำลังถูกจับตา สำนักข่าวเอเอฟพีคัดสรรเทคโนโลยีที่อาจเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนในปีหน้า

เนื้อไร้เนื้อ

เนื้อทางเลือกพบได้มากขึ้นในครัวเรือนสหรัฐส่วนหนึ่งเพราะสินค้าเนื้อผลิตจากพืช (แพลนต์เบส) ของบริษัทบียอนด์มีทและอิมพอสซิเบิลฟู้ด ที่ทำได้ใกล้เคียงเนื้อวัวหรือเนื้อหมูมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติหรือเนื้อสัมผัส

ความต้องการเนื้อแพลนต์เบสสูงขึ้นผลจากสินค้าคุณภาพดีขึ้น ราคาถูกลง ผนวกกับความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์เป็นอาหารปล่อยก๊าซเรือนกระจก14.5% ตามข้อมูลของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)

สำหรับตลาดเนื้อแพลนต์เบส บริษัทรีเสิร์ชแอนด์มาร์เก็ตส์รายงานว่า มูลค่าน่าจะเพิ่มจาก 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2563 มาอยู่ที่3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2570

“2565 จะเป็นปีทำเงินสำหรับอาหารทำจากโปรตีนแพลนต์เบส สินค้าเหล่านี้พัฒนาเต็มที่แล้วและเป็นสินค้าที่ดี กำลังจะกลายเป็นกระแสหลัก” เดวิด บิชิรี ประธานเฟเบอร์โนเวล บริษัทที่ปรึกษาจากสหรัฐกล่าว

เว็บ 3.0 และคริปโทฯ

อินเทอร์เน็ตเฟสแรกคือการสร้างเว็บไซต์และบล็อก เปิดทางให้บริษัทอย่างยาฮู อีเบย์ และอเมซอนถือกำเนิดขึ้น

เฟสต่อมาคือเว็บ 2.0 ได้แก่โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเนื้อหาและมีการแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น อาทิ เฟซบุ๊คและยูทูบ

เบเนดิกต์ อีแวนส์ นักวิเคราะห์อิสระผู้เชี่ยวชาญในซิลิคอนวัลเลย์ อธิบายว่า แพลตฟอร์มในเว็บ 2.0 ทำเงินได้ ควบคุมเว็บเอง และเปิดให้ผู้ใช้ผลิตเนื้อหา ใช้งาน โต้ตอบ มีปฏิสัมพันธ์กันได้บนเว็บ

ต่อไปนี้ เว็บ3.0 กำลังมาซึ่งในเฟสนี้ “ผู้ใช้ ผู้ผลิตเนื้อหา และผู้พัฒนาจะมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มในลักษณะการทำงานร่วมกันอย่างมาก”

ความก้าวหน้าระดับปฏิวัติเช่นนี้เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทำงานบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์หลายหมื่นหรือหลายล้านเครื่อง ถึงขณะนี้บล็อกเชนทำให้คริปโทเคอร์เรนซีอย่างบิตคอยน์ได้รับความนิยมอย่างมาก ล่าสุดคือวัตถุดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครอย่างภาพวาด การ์ตูน ที่เรียกกันว่า เอ็นเอฟที

“เราพูดกันมากเรื่องการเงินแบบกระจายศูนย์กลาง แต่ผมคิดว่าในปี 2565 เราจะได้เห็นการใช้งานที่เป็นของท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งจะเข้ามาในชีวิตประจำวัน” บีชิรีจากบริษัทที่ปรึกษาเฟเบอร์โนเวลกล่าว

หลังจากเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนสูงอย่างบิตคอนย์มูลค่าพุ่งทุบสถิติในปี 2564 จึงมีผู้เล่นจำนวนมหาศาลโดดลงมาร่วมเกมแม้แต่ไมอามีและนิวยอร์กก็มีเงินเสมือนของตนเองด้วย

แรนซัมแวร์มีได้ทุกที่

 การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์มากถึงขนาดทุบสถิติและข้อมูลที่รั่วไหลในปีนี้ส่อเค้าต่อเนื่องไปถึงปีหน้า

โจรไซเบอร์รุกเครือข่ายของเหยื่อเพื่อเข้ารหัสข้อมูลจากนั้นเรียกค่าไถ่ ปกติมักจ่ายผ่านคริปโทเคอร์เรนซีแลกกับการปลดล็อกข้อมูล ปัจจัยต่างๆ ที่สอดคล้องต้องกันทำให้เกิดเทรนด์แรนซัมแวร์ เช่น มูลค่าคริปโทเคอร์เรนซีพุ่งสูง เหยื่อยินดีจ่ายค่าไถ่ และทางการติดตามผู้โจมตีได้ยาก

บริษัทความมั่นคงทางไซเบอร์ “โซนิควอลล์” บันทึกไว้เมื่อปลายเดือน ต.ค.ว่า ข้อมูลประจำปี 2564 นับถึงเดือน ต.ค. บริษัทได้รับรายงานเรื่องการโจมตีแรนซัมแวร์ 495 ล้านรายการ คาดว่าปีนี้จะเป็นปีอันตรายและเสียหายมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

“เมื่อคิดถึงปี 2565 สิ่งแรกที่ดิฉันและเพื่อนร่วมงานนึกได้คือแรนซัมแวร์ยังมีต่อเนื่อง มันทำเงินได้ง่ายมาก“ แซนดรา จอยซ์ รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองโลก บริษัทความมั่นคงไซเบอร์ ”แมนเดียนต์” ให้ความเห็น

การกำกับดูแลบิ๊กเทค

เป็นการยากจะบอกว่า สุดท้ายแล้วปี 2565 เป็นปีที่บิ๊กเทคถูกระเบียบใหม่เล่นงานไปเต็มๆ หริือไม่ แต่ภัยคุกคามด้านกฎหมายและกฎระเบียบที่ออกมาหลายระลอกในปี 2564 จะกระตุ้นให้เกิดศึกใหญ่

ในสหรัฐ คณะกรรมการการค้ากลางยื่นฟ้องต่อต้านการผูกขาดกับเฟซบุ๊คแสดงถึงภัยคุกคามสำคัญต่อยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรายนี้ แม้ว่าศาลจะเคยยกฟ้องไปครั้งหนึ่งแล้วก็ตาม หลังมีคนออกมาแฉว่าผู้บริหารเฟซบุ๊ครู้เห็นเป็นใจด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นได้หลังจากนี้คือเฟซบุ๊คอาจเจอคดีความหรือการสอบสวนจากรัฐบาลกลางสหรัฐมากขึ้น เผลอๆ อาจถึงขั้นออกกฎหมายใหม่มาดูแล

นักวิจารณ์บางคนกล่าวว่า การผลักดันเมตาเวิร์สหรืออินเทอร์เน็ตเวอร์ชันเสมือนจริงของเฟซบุ๊ค เป็นความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจหลังจากเฟซบุ๊คถูกวิจารณ์มาหลายปี

สำหรับคดีแอ๊ปเปิ้ลกับเอพิคเกมส์ผู้ผลิตฟอร์ตไนต์ที่เกิดจากทางเอพิครับจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตในเกมฟอร์ตไนต์โดยตรงแล้วถูกแอ๊ปเปิ้ลแบนในเวลาต่อมา แต่แอ๊ปเปิ้ลรอดกระสุนมาได้ในปี 2564 เมื่อศาลกลางสหรัฐพิพากษาว่า เอพิคเกมส์ผู้ผลิตฟอร์ตไนต์ ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าไอโฟนผูกขาด

อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรป (อียู) อาจออกระเบียบใหม่ในเร็วๆ นี้ หลังจากพยายามผลักดันกฎหมายใหม่หลายฉบับ เช่น กฎหมายบริการดิจิทัลที่จะดูแลเนื้อหาอันตรายและผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มอย่างเฟซบุ๊คได้เข้มงวดยิ่งขึ้น

ส่วนแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจเว็บไซต์ schroders.com รายงานว่าความปั่นป่วนอย่างมากในซัพพลายเชนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องล็อกดาวน์เกิดคอขวดด้านการขนส่ง ส่อเค้าหายไปเมื่อเข้าสู่ปี 2565 สินค้าตกค้างจะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดตอบรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวหนุนความต้องการน้ำมันและก๊าซในช่วงที่อุปทานเติบโตคงที่ รัฐบาลต่างๆ กระตุ้นให้บริษัทพลังงานลงทุนกับพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ตัดงบประมาณสำรวจและผลิตพลังงานดั้งเดิมลง เมื่อการลงทุนลดอุปทานไม่ใช่แค่ตึงตัว แต่หลายกรณียังหดตัวรวดเร็วด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอน ส่งผลให้ราคาพลังงานดั้งเดิมมีแนวโน้มสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ส่วนเมกะเทรนด์อื่นๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านพลังงาน การเปลี่ยนแปลงประชากร นวัตกรรมดูแลสุขภาพ กระบวนการทำให้เป็นดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ กระบวนการทำให้เป็นเมือง เรื่องเหล่านี้ถูกพูดถึงมาหลายปี แต่เมื่อประชาชนเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งเกิดโรคระบาดยิ่งเป็นตัวช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลง