"คริปโตเคอร์เรนซี" แทนเงินสด ร้านกาแฟอินทนิลนำร่องเริ่ม 1 ธ.ค.นี้

"คริปโตเคอร์เรนซี" แทนเงินสด ร้านกาแฟอินทนิลนำร่องเริ่ม 1 ธ.ค.นี้

ร้านกาแฟ "อินทนิล" (Inthanin) นำร่องชำระเครื่องดื่ม สินค้าภายในร้านด้วย "คริปโตเคอร์เรนซี" ประเดิม 21 สาขาเริ่ม 1 ธันวาคม 2564 นี้ 

ร้านกาแฟ "อินทนิล" (Inthanin) นำร่องชำระเครื่องดื่ม สินค้าภายในร้านด้วย "คริปโตเคอร์เรนซี" นับเป็นรายแรกในไทย ประเดิมวันแรกในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นี้ 

 

 

สำหรับ ร้านกาแฟ "อินทนิล" (Inthanin) จากการดำเนินงานของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ซึ่งล่าสุดได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพจ Inthanin Coffee Fan Club ระบุว่า  "ชำระด้วย "คริปโต" 1 ธันวาคม 2564 ที่ร้านอินทนิล Chain Store Coffee ที่รับชำระค่าสินค้าด้วยคริปโตรายแรกในไทย"

 

โดยร้านกาแฟ "อินทนิล" (Inthanin) ปัจจุบันมีสาขารวมมากกว่า 750 สาขาทั่วประเทศ ทว่าการชำระค่าเครื่องดื่มด้วย "คริปโตเคอร์เรนซี" นั้นจะเริ่มจาก 21 สาขาก่อน 

 

"คริปโตเคอร์เรนซี" แทนเงินสด ร้านกาแฟอินทนิลนำร่องเริ่ม 1 ธ.ค.นี้

 

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายเสรี อนุพันธนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัดและผู้บริหารร้านฯ กล่าวในงานสัมมนาออนไลน์ ว่า "คริปโตเคอร์เรนซี" เป็นเทรนด์อนาคตที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และอินทนิลมองเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ จึงได้พัฒนาช่องทางชำระค่าสินค้าและบริการ เพื่อรองรับคริปโตใน 3 เหรียญยอดนิยม คือ บิตคอยน์ (Bitcoin/BTC) , อีเทอเรียม (Ethereum/ETH) และเทเทอร์ (Tether/USDT) ผ่าน บิทาซซ่า (Bitazza) Digital Asset Platform ที่แปลงคริปโตเคอร์เรนซีเป็นเงินบาท ทำให้ร้านค้าสามารถรับรู้รายได้ที่แน่นอน ไม่ผันแปรไปตามอัตราแลกเปลี่ยน

 

 

นายเสรี ยังระบุด้วยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตลาดเครื่องดื่มกาแฟหดตัว 30-40% เนื่องจากผู้บริโภคออกจากบ้านลดลง ขณะที่กาแฟสำเร็จรูป 3 in 1 มีแนวโน้มโตขึ้น ทำให้ธุรกิจร้านกาแฟจะเน้นกลยุทธ์ Collaboration เพื่อช่วยเสริมซินเนอร์ยีต้นทุนของทั้ง 2 ฝ่าย ตลอดจนการผันตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด เพราะปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มชินกับการใช้ e-wallet มากขึ้น