ภูเก็ต เตรียมเปิดจุดตรวจ ATK ซอยบางลา ป่าตอง ยกระดับความเชื่อมั่น

ภูเก็ต เตรียมเปิดจุดตรวจ ATK ซอยบางลา ป่าตอง ยกระดับสร้างความเชื่อมั่น หลังพบต้นตอการติดเชื้อโควิด-19 มาจากกลุ่มฟรีแลนด์ที่เข้ามาหางานทำหลังเปิดประเทศ

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 64 ที่ห้องประชุมพระบารมี ชั้น 3 เทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายกิตติสัณห์ คุรุ รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เป็นประธานการประชุมหารือการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (EOC) เทศบาลเมืองป่าตอง โดยมี พ.ต.อ. สุจินต์ นิลบดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรป่าตอง, นายจิรวัฒน์ นะมาตร์ ปลัดอำเภอกะทู้, นายพีระพงษ์ ชีพเหล็ก สาธารณสุขอำเภอกะทู้, บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลป่าตอง, นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง, นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น, ผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่ถนนบางลา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองป่าตอง เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ได้มีสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ตำบลป่าตอง ภายหลังการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะซอยบางลา และได้มีการสั่งปิดสถานบริการไปแล้ว 9 แห่ง เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเกิน 2 คน เพื่อทำความสะอาด นำผู้ติดเชื้อไปรักษาตามขั้นตอน ขณะเดียวกันยังได้นำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไปทำการกักตัวเพื่อดูอาการ นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำการปฏิบัติของผู้ประกอบการตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่กำหนด ตลอดจนการลงพื้นที่ปูพรมของฝ่ายบริการสาธารณสุขฯ โดยบูรณาการร่วมกับโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อทำการตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันมิให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กลับมาระบาดระลอกใหม่ในพื้นที่ตำบลป่าตองได้อีก ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวด้วย

พ.ต.อ. สุจินต์ นิลบดี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรป่าตอง กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากรายงานตัวเลขพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในซอยบางลา เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธร ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ได้รับทราบและมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากมีการตั้งจุดตรวจคัดกรองบริเวณต้นซอยและท้ายซอย ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการหลายครั้งเพื่อหาต้นตอของปัญหา พบว่า จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวทำให้แรงงานที่อยู่ต่างจังหวัดเดินทางกลับมาทำงานมากขึ้น และกลุ่มนี้จะมีบางส่วนที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนไม่ครบโดส จึงกำหนดให้พนักงานทุกร้านในซอยบางลา จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และมีใบรับรอง เพื่อจะได้ขึ้นทะเบียนไว้เนื่องจากพบว่าพนักงานส่วนหนึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด จึงทำให้ไม่เข้มงวดในการป้องกันโรคเหมือนกับคนในพื้นที่ และจะต้องสุ่มตรวจอย่างสม่ำเสมอ หากพบติดเชื้อก็แยกตัวไปรักษาตามขั้นตอน ส่วนกรณีของการสวมหน้ากากอนามัยซึ่งพบว่า เริ่มทจะหละหลวม ได้มีเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติไป ไม่ว่าจะเป็นคนหรือต่างชาติ จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด

นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น หนึ่งในผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวหาดป่าตอง กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้ข้อสรุปว่า ในส่วนของซอยบางลา จะมีการยกระดับการตรวจคัดกรองขึ้นมาอีกระดับ หลังจากภาคประชาชนในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และสถานประกอบการภายในซอยบางลา ได้ร่วมกันตั้งจุดคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการภายในซอยบางลา ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การตรวจข้อมูลการฉีดวัคซีน การเน้นย้ำการสวมหน้ากากอนามัย แต่หลังจากวันที่ 1 ธนวาคมนี้จะยกระดับขึ้นอีกชั้น จะมีการตั้งด่านย่อยเพื่อให้บริการตรวจหาเชื้อด้วย ATK เพราะมีความเป็นห่วงใน 2 กลุ่ม คือ พนักงานประจำร้านต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการตรวจหาเชื้อและปฏิบัติตามาตรการที่กำหนด กับอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นเอ้าท์ซอส หรือ Freelance เพราะจากข้อมูลพบว่า นักท่องเที่ยวไม่ติด แต่ที่ติดคือ คนไทยที่มาหางานทำ และเป็นแรงงานแฝง ซึ่งพบว่ายังฉีดวัคซีนไม่ครบ จึงทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา

ด้านนายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวเสริมว่า จากการประชุมร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุป ว่าจะให้มีการทำประวัติของพนักงาน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จะได้ทราบจำนวนของพนักงานแต่ละร้านมีมากน้อยแค่ไหน และพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด นอกจากนี้ยังมี Freelance ซึ่งไม่มีสังกัดสมาคมฯ มีมาตรการและจะมีการตรวจ ATK ให้กับกลุ่มดังกล่าว จากข้อมูลทราบว่ามีจำนวนประมาณ 50-60 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการออกบัตรประจำตัว สร้างความมั่นใจ

ส่วนของการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการต่าง ๆนายวีรวิชญ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด พยายามบอกว่า วันนี้เจ้าหน้าที่เอื้ออย่างเต็มที่ จากนี้ไปขึ้นอยู่กับพวกเราเอง และต้องยอมรับกันหากร้านไหนติดเชื้อก็ต้องทำตามระบบ ซึ่งเข้าใจว่าขาดรายได้ แต่เพื่อส่วนรวมก็ต้องเป็นไปตามกติกา เพื่อจะได้ไม่ถูกปิดอีก ฉะนั้นในเรื่องของการขอความร่วมมือพูดมากพอแล้ว หากยังตักตวงกันได้แค่นี้ และหากวันหนึ่งถูกปิดอีกไม่สามารถตักตวงได้ ก็ขอให้อยู่ในความพอดีและพอเพียง