อัพเดท "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 609 จับตาสมุทรปราการ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต

อัพเดทต่อเนื่อง เกาะติดสถานการณ์ โควิดวันนี้ 26 พ.ย. 64 เกาะติดความคืบหน้า 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตรวจสอบ อัพเดท 10 จังหวัดอันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงสุด 

จํานวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ตรวจสอบ 10 จังหวัดอันดับ

1 กรุงเทพมหานคร
2 สงขลา 
3 นครศรีธรรมราช 
4 สุราษฎร์ธานี 
5 สมุทรปราการ 
6 ปัตตานี 
7 ชลบุรี 
8 เชียงใหม่ 
9 ภูเก็ต
10 พัทลุง

26/1164 กรุงเทพมหานคร หรือ กทม. ยอดติดเชื้อโควิดสูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ ตามด้วย สงขลา นครศรีฯ สุราษฎร์ธานี สมุทรปราการ ปัตตานี ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทลุง

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 25 พ.ย. 2564)
รวม 90,735,069 โดส ใน 77 จังหวัด
 ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 
ยอดฉีดทั่วประเทศ 266,114 โดส
 เข็มที่ 1 : 98,118 ราย
 เข็มที่ 2 : 146,673 ราย
 เข็มที่ 3 : 21,323 ราย
----------------------------
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 47,331,644 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 40,202,745 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 3,200,680 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC , ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19

วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564  เวลา 12.30 น.
สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ
ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564
 ผู้ป่วยรายใหม่ 6,559 ราย
 หายป่วยแล้ว 1,966,538 ราย
 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,066,023 ราย
 เสียชีวิตสะสม 20,551 ราย
-------------
ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563
 หายป่วยแล้ว 1,993,964 ราย
 ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,094,886 ราย
 เสียชีวิตสะสม 20,645 ราย
ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 25 พฤศจิกายน 2564
 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 90,735,069 โดส
------------
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน 
เข็มที่ 1 จำนวน 98,118 ราย
เข็มที่ 2 จำนวน 146,673 ราย
เข็มที่ 3 จำนวน 21,323 ราย


 

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก 
วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. 
ยอดผู้ติดเชื้อรวม 260,279,922 ราย 
อาการรุนแรง 82,672 ราย 
รักษาหายแล้ว 235,244,309 ราย 
เสียชีวิต 5,198,905 ราย 

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา  จำนวน 48,999,737 ราย
2. อินเดีย  จำนวน 34,546,926 ราย
3. บราซิล  จำนวน 22,055,608 ราย
4. สหราชอาณาจักร  จำนวน 10,021,497 ราย
5. รัสเซีย  จำนวน 9,468,189 ราย

ประเทศไทย  อยู่ในอันดับที่ 23 จำนวน 2,094,886 ราย

จัดซื้อไฟเซอร์ สำหรับปี 65 30 ล้านโดส เป็นเข็มกระตุ้น และฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์) 30 ล้านโดส สำหรับปี 2565 นำมาใช้เป็นเข็มกระตุ้น ร่วมกับแอสตร้าเซนเนก้า 60 ล้านโดส มั่นใจวัคซีนมีเพียงพอ และยังมีเงื่อนไขกรณีวัคซีนผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย.ไทยให้ใช้ในเด็กอายุ 5 – 11 ปี สามารถเปลี่ยนเป็นวัคซีนสำหรับฉีดให้เด็กกลุ่มนี้ได้

นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่สั่งซื้อ 30 ล้านโดสนั้น จะเริ่มทยอยส่งมอบให้ประเทศไทยตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2565 เป็นต้นไป โดยจะนำมาใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นซึ่งจะฉีดได้ถึง 30 ล้านคน ยืนยันว่าวัคซีนในปี 2565 มีเพียงพอ เพราะยังมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอีก 60 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนโปรตีนซับยูนิต ที่ไทยกำลังพัฒนาหากผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. แล้ว จะสำรองไว้ใช้อีก 20 ล้านโดส ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีวัคซีนโควิด 19 ทุกเทคโนโลยี นอกจากนี้ ในการสั่งซื้อ 30 ล้านโดส ยังมีเงื่อนไขพิเศษให้สั่งเพิ่มได้อีก 20 ล้านโดสโดยไม่ต้องจ่ายค่ามัดจำเพิ่ม และจะมีการขอขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย เพื่อใช้ฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี เมื่อขึ้นทะเบียนแล้วจะนำเข้าวัคซีนสูตรเด็กมาฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี ประมาณ 5 ล้านคน ในปีหน้า

ที่มา - กระทรวงสาธารณสุข / ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19