เชียงใหม่ปิดแคมป์คนงานต่างด้าว หลังพบโควิดระบาดจนเป็นคลัสเตอร์
นายกเล็ก ทน.หนองแฝก อ.สารภี พร้อมกำนัน นำคำสั่งปิดอาคารโกดังทำเฟอร์นิเจอร์ หลังถูกแปรสภาพเป็นแคมป์แรงงานต่างด้าวอยู่กันอย่างแออัด จนมีโควิดระบาดหนัก
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเลอยศ พุทธชิโนรสสกุล นายอำเภอสารภี มอบหมายให้ นายอนุชา แสงสว่าง นายกเทศมนตรีตำบลหนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายนิกร อุ่นบุญธรรม กำนันตำบลหนองแฝก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสารภี ได้นำคำสั่งระงับการใช้อาคาร มาติดที่บริเวณหน้าโกดังทำเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 108 หมู่ 4 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังอาคารดังกล่าวใช้ผิดวัตถุประสงค์ เป็นอาคารที่พักของกลุ่มบุคคลแรงงานต่างด้าวซึ่งอยู่อย่างแออัด จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้มีคำสั่งให้มีการเพื่อให้แก้ไขปรับปรุงให้อาคารเป็นอาคารประเภทที่ระบุไว้ตามวัตถุประสงค์ในใบอนุญาต หรือหากจะเป็นเปลี่ยนประเภทอาคารเพื่อใช้ในการอื่นที่มิใช่อาคารโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ ให้ดำเนินการแจ้งเป็นหนังสือมายังเทศบาลตำบลหนองแฝก เพื่อจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ให้ดำเนินการภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้
นายนิกร อุ่นบุญธรรม กำนันตำบลหนองแฝก ได้กล่าวว่าจากการตรวจพื้นที่แห่งนี้มีทั้งหมด 6 โกดังโดยมีการขออนุญาตเป็นโกดังสินค้า แต่ปรากฎว่ามีการดัดแปลงภายในโกดังทำเป็นที่พักแรงงานต่างด้าว มีทั้งผู้ใหญ่ชาย-หญิง และเด็กๆรวมอยู่ด้วยกันอย่างแออัดไม่ถูกสุขลักษณะ ที่อาบน้ำทำเป็นสระใช้อาบน้ำร่วมกัน ส่วนห้องน้ำเป็นส้วมซึมมีทั้งหมด 8 ห้อง ทำด้วยสังกะสี เมื่อส้วมเต็มก็ไม่มีใครมาสูบส้วม ต่างหวาดกลัวเชื้อโควิด-19
โกดังทั้ง 6 หลังแห่งนี้มีหลายผู้ประกอบการ มาเช่าให้แรงงานต่างด้าวมาพักอาศัยอยู่ แต่ละโกดังอาศัยอยู่ได้ประมาณ 50 คน เมื่อครั้งแรกเกิดคลัสเตอร์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จำนวน 59 ราย ครั้งที่ 2 เกิดคัสเตอร์ จำนวน 79 ราย ที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้กักตัวอยู่ในโกดัง 14 วัน ครบกำหนดเมื่อ วานนี้(24 พ.ย.64)และได้ผลักดันออกจากนอกพื้นที่ไป
อย่างไรก็ตามแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่อยู่ในทั้งกลุ่มผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงของโกดังแห่งนี้ ทางเทศบาลตำบลหนองแฝก ได้ดูแลด้านมนุษยธรรมอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้ติดเชื้อรอบแรกและรอบที่สอง มีการจัดส่งอาหาร-น้ำดื่ม ให้วันละ 3 มื้อ ครบ 14 วัน ร่วม 100 กว่าชีวิตที่กักตัวอยู่ในโกดัง
