"เชียงใหม่" พบผู้ติดเชื้อโควิด 240 ราย เร่งกลุ่มเสี่ยงสูงเข้ารับฉีดวัคซีน

"เชียงใหม่" พบผู้ติดเชื้อโควิด 240 ราย เร่งกลุ่มเสี่ยงสูงเข้ารับฉีดวัคซีน

"เชียงใหม่" พบผู้ติดเชื้อโควิด 240 ราย ด้านสถิติผู้เสียชีวิตส่วนมากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน ทั้งนี้ขอให้กลุ่มเสี่ยงสูงต้องรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้

สถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (21 พ.ย. 64) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเพียง 240 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดทั้งหมด โดยมาจากคลัสเตอร์ต่าง ๆ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ใหม่และคลัสเตอร์ที่มีการระบาดต่อเนื่อง 21 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า พบเพิ่ม 7 ราย ยอดรวม 14 ราย โดยมีการกระจายไปหลายร้านในห้างดังกล่าว,

คลัสเตอร์บ้านกองปะ หมู่ 7 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด 6 ราย, คลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างสนามกีฬา มหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม 3 ราย, คลัสเตอร์กลุ่มทำนา หมู่ 7 ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง 2 ราย และคลัสเตอร์สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ 1 ราย นอกนั้นเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่คลัสเตอร์ละ 1 ราย

\"เชียงใหม่\" พบผู้ติดเชื้อโควิด 240 ราย เร่งกลุ่มเสี่ยงสูงเข้ารับฉีดวัคซีน

ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่ตรวจพบจากกลุ่มเสี่ยงระหว่างการกักตัว การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 39 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ พบเพิ่ม 3 ราย ยอดรวม 2,018 ราย, คลัสเตอร์บ้านแม่แจ๊ะ หมู่ 13 ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม 3 ราย, คลัสเตอร์หอผู้ป่วยชาย โรงพยาบาลหางดง 3 ราย, คลัสเตอร์บริษัทนิ่มซี่เส็ง สาขาฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2 ราย และคลัสเตอร์ตลาดรวมโชค ตำบลฟ้าฮ่าม 2 ราย ส่วนคลัสเตอร์อื่น ๆ พบคลัสเตอร์ละ 1-2 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น

ด้านผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 67 ราย ขณะที่การระบาดในครอบครัวยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 14 ราย จาก 7 ครอบครัว และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 116 ราย

ทั้งนี้อำเภอที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 105 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 67 ราย, อำเภอแม่ริม 26 ราย, อำเภอดอยสะเก็ด 22 ราย อำเภอสันทราย 18 ราย และอำเภอสันกำแพง 15 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้ รายแรกเป็นชายไทย อายุ 71 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อน โดยวันที่ 2 พฤศจิกายน คนในครอบครัวติดเชื้อ จึงไปตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด รับไว้รักษาที่โรงพยาบาลสนาม ต่อมามีอาการหนักมากขึ้น จึงส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ วันที่ 19 พฤศจิกายน ปอดอักเสบรุนแรงมากขึ้น ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลง ในเวลา 18.03 น.

อีกรายเป็น เป็นหญิงไทย อายุ 55 ปี มีโรคประจำตัว คือ จิตเภท ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อไม่ชัดเจน ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม 1 เข็ม เมื่อ 22 ตุลาคม โดยวันที่ 9 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ หลังจากนั้นอีก 4 วัน จึงเข้ารับการตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนวันที่ 15 พฤศจิกายน มีอาการมากขึ้นจึงได้ย้ายไปรักษาที่ดรงพยาบาลจอมทอง วันที่ 17 พฤศจิกายน ปอดอักเสบรุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา วันที่ 20 พฤศจิกายน ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง ในเวลา 13.42 น.

จากสถิติผู้เสียชีวิตทั้งหมดของจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด 103 ราย เป็นผู้สูงอายุมากถึง 74 ราย คิดเป็นร้อยละ 72 และเป็นผู้มีโรคประจำตัว 93 ราย คิดเป็นร้อยละ 90 โดยมีเพียง 6 รายเท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ด้านโรงพยาบาลมหาราชได้สำรวจผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีภาวะวิกฤตทั้งหมด 20 ราย พบว่า ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน บางรายได้รับการฉีดเพียงเข็มเดียว หรือได้รับครบ แต่ยังไม่ครบ 2 สัปดาห์ ทั้งหมดเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า การที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบ จะส่งผลให้ผู้ติดเชื้อที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงมีอาการหนัก และเสียชีวิตได้ หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้จะทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อกลุ่มสีแดงที่มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นจนจำนวนเตียงไม่สามารถรองรับได้ ดังนี้จึงต้องรีบแก้ไขโดยเร็วที่สุด และวิธีแก้ไขง่ายและเร็วที่สุด คือ กลุ่มเสี่ยงสูงทั้งผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ต้องรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว จะทำให้ถ้าติดเชื้อแล้วอาการจะไม่รุนแรง และไม่ทำให้เสียชีวิต

โดยผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนสามารถ Walk in เข้ามารับการฉีดวัคซีนได้ที่ทุกศูนย์ ซึ่งขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการสนับสนุนวัคซีนเข็ม 1 ชนิด AstraZeneca และเข็ม 2 ชนิด Pfizer เพียงพอสำหรับทุกท่านที่ยังไม่ได้ฉีด สามารถติดต่อนัดหมายที่ศูนย์ฉีดวัคซีนทุกแห่งที่จังหวัดเชียงใหม่จัดไว้ให้