เจาะธุรกิจ “มาดามรถถัง” เครือ “ชัยเสรีกรุ๊ป” คู่ค้ารัฐ-กองทัพ 5.5 พันล้าน

เจาะธุรกิจ “มาดามรถถัง” เครือ “ชัยเสรีกรุ๊ป” คู่ค้ารัฐ-กองทัพ 5.5 พันล้าน

เจาะธุรกิจ “มาดามรถถัง” ผู้ก่อตั้งเครือ “ชัยเสรีกรุ๊ป” 2 บริษัท “ชัยเสรีเม็ททอล-ชัยเสรี (กรุงเทพ)” คู่สัญญาหน่วยงานรัฐ-กองทัพ กว่า 5.5 พันล้านบาท พบเพิ่งตั้งธุรกิจใหม่ปี 64 “ไทยดีเฟนส์อินดัสตรี” ผลิตยานเกราะโฟร์วีล “พันเอก” นั่งกรรมการด้วย

“บริษัทเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ.2506 และเริ่มค้าขายกับกองทัพไทยมีสัญญาฉบับแรก ในสมัยพลเอก ประภาส จารุเสถียร เป็นผู้บัญชาการทหารบก พ.ศ. 2511 โดยมีสัญญาซ่อมบำรุงรถ ค้าขายอะไหล่รถให้กับกองทัพ ส่วนมากคือ การซ่อมรถต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้รวมระยะเวลา 54 ปีแล้ว”

คือคำให้สัมภาษณ์ของนางนพรัตน์ กุลหิรัญ หรือที่สื่อตั้งฉายาว่า “มาดามรถถัง” ผู้ก่อตั้งบริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ที่อธิบายว่าบริษัทเป็น “คู่สัญญา” กับหน่วยงานกองทัพมายาวนานกว่า 54 ปี โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงรถ และค้าอะไหล่ให้กับกองทัพ

ขณะที่ชื่อของ “มาดามรถถัง” กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากบริษัท ชัยเสรีฯ ได้ผลิต “รถเกราะล้อยาง” แบบพยาบาล เพื่อปฏิบัติภารกิจขององค์การสหประชาชาติ (UN) จำนวน 15 คัน โดยความตั้งใจเดิมจะเสนอขายให้กับ “กองทัพ” ทว่ากองทัพไทยอ้างว่าไม่มีเงินซื้อ เมื่อจะบริจาคให้ฟรี ๆ แต่กองทัพบอกว่าไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้ต้องเบนเข็มทิศ “บริจาค” ส่งมอบให้ประเทศภูฏานเพื่อไปประจำการที่ UN ในวันที่ 19 พ.ย. 2564 แทน

อ่านข่าว: กองทัพไทยไม่เอา! มาดามรถถัง จะส่งมอบรถเกราะล้อยาง 15 คันให้ภูฏานไปประจำ UN

หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า บริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด เป็นหนึ่งในธุรกิจเครือ “ชัยเสรีกรุ๊ป” โดยบริษัทแห่งนี้คือ 1 ใน 9 เสือคู่ค้ากองทัพ” รายใหญ่ของไทย ได้แก่ 1.บริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด 2.บริษัท เสรีชัยยุทธภัณฑ์ จำกัด 3.บริษัท ช.ไพศาล จำกัด 4.บริษัท โรยัลสกาย จำกัด 5.บริษัท ลัทธพลเทรดดิ้ง จำกัด 6.บริษัท ไทยเครื่องสนาม (2525) จำกัด 7.บริษัท ไพบูลย์เศรษฐกิจ จำกัด 8.บริษัท รอยัล ดีเฟนส์ จำกัด 9.บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ) จำกัด ที่ทั้งหมดเป็นคู่สัญญากับ “กองทัพ” รวมกันหลายหมื่นล้านบาท

บริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ รวมถึงกองทัพไทย หากนับตั้งแต่ปี 2540-ปัจจุบัน หรือกว่า 24 ปีที่ผ่านมา อย่างน้อย 131 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงินกว่า 4.2 พันล้านบาท โดยสัญญาที่มีมูลค่าสูงสุดคือ จ้างซ่อมสร้างรถยนต์บรรทุกจำนวน 200 คัน ดำเนินการโดย “กองทัพบก” วงเงิน 474 ล้านบาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2544

ขณะที่บริษัท ชัยเสรี (กรุงเทพ) จำกัด ในเครือ “ชัยเสรีกรุ๊ป” เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ รวมถึงกองทัพไทย ระหว่างปี 2540-2564 อย่างน้อย 250 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงินกว่า 1.3 พันล้านบาท

รวม 2 บริษัทเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐและกองทัพ อย่างน้อย 381 สัญญา วงเงินรวมไม่น้อยกว่า 5.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้หากนับเฉพาะในปีงบประมาณ 2564 พบว่า บริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด เป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐอย่างน้อย 18 โครงการ (เท่าที่ตรวจสอบพบ) รวมวงเงิน 295.07 ล้านบาท โดยโครงการที่มีวงเงินสูงสุดคือ จ้างจ้างซ่อมปรับปรุง รสพ. ตระกูล M 113 ให้เป็น รสพ. M 113 A 2 I จำนวน 10 คัน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ดำเนินการโดย “กองทัพบก” วงเงิน 110 ล้านบาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 พบว่า บริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2533 ทุนปัจจุบัน 150 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 41/1 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ผลิตและจำหน่ายอะไหล่และอุปกรณ์เกี่ยวกับยานพาหนะ

ปรากฏชื่อ นายหิรัญ กุลหิรัญ (สามีนางนพรัตน์ กุลหิรัญ) นายชาญเวช กุลหิรัญ นางสาวนฤมล กุลหิรัญ นายกานต์ กุลหิรัญ นายกฤต กุลหิรัญ เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 1,028,744,252 บาท หนี้สินรวม 170,386,452 บาท รายได้รวม 359,278,596 บาท รายจ่ายรวม 339,269,094 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 18,691 บาท เสียภาษีเงินได้ 5,892,363 บาท กำไรสุทธิ 14,098,447 บาท

กล่าวสำหรับ “มาดามรถถัง” หรือนางนพรัตน์ กุลหิรัญ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง ยังดำเนินกิจการอยู่ 2 แห่ง ได้แก่

1.บริษัท จี เอ็ม อินด์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2552 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 58 หมู่ที่ 6 ถนนปทุม-บางเลน ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด รับจ้างผลิตสินค้าที่ทำด้วยโลหะและอโลหะทุกชนิด ทุกประเภท

ปรากฏชื่อ นางนพรัตน์ กุลหิรัญ นางสาวรวีวรรณ ต้นตระกูลรัตน์ เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายได้รวม 27,040,850 บาท มีรายจ่ายรวม 27,266,916 บาท เสียภาษีเงินได้ 262,283 บาท เสียภาษีเงินได้ 488,348 บาท

2.บริษัท ไทยดีเฟนส์อินดัสตรี จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2564 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 59 หมู่ที่ 6 ถนนปทุม-บางเลน ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการผลิตยานเกราะล้อยาง 4*4

ปรากฏชื่อ นายหิรัญ กุลหิรัญ นางนพรัตน์ กุลหิรัญ นายกานต์ กุลหิรัญ นายกฤต กุลหิรัญ พันเอกชัชพงษ์ พันธุ์พยัคฆ์ (อดีต ผอ.ฝ่ายพัฒนากิจการ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน)) เป็นกรรมการ

ยังไม่มีข้อมูลงบการเงิน