‘บิตคอยน์’ร่วงกว่า5% เคลื่อนไหวที่ 60,000 ดอลล์

‘บิตคอยน์’ร่วงกว่า5% เคลื่อนไหวที่ 60,000 ดอลล์

ราคาบิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 05.15 น.ของวันนี้ (17 พ.ย.) ปรับตัวร่วงลง 5.09% เคลื่อนไหวที่ 60,633.7 ดอลลาร์

การร่วงลงของบิตคอยน์ช่วงเช้าวันนี้ เป็นการร่วงลงต่อเนื่องจากเมื่อวันอังคาร(16พ.ย.)ที่บิตคอยน์ทรุดตัวหลุดระดับ 60,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. โดยปรับตัวลงต่ำกว่า 2,000,000 บาท ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีสกุลเงินคริปโต

ทั้งนี้ บิตคอยน์ดิ่งลงสู่ระดับ 58,600 ดอลลาร์ในวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 20 วัน และดิ่งลง 14% จากระดับ 69,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

การทรุดตัวของบิตคอยน์ในวันนี้ ถือว่าหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐจะทำการตรวจสอบการทำธุรกรรมและเรียกเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามในกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์วานนี้ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหากำหนดให้โบรกเกอร์หรือแพลตฟอร์มที่ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลต้องรายงานต่อกรมสรรพากรสหรัฐ (ไออาร์เอส) เกี่ยวกับการทำธุรกรรมใดๆของลูกค้าที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ ราคาบิตคอยน์และสกุลเงินคริปโตยังถูกกดดันจากการที่นายเน็ด ซีกอล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัททวิตเตอร์ กล่าวว่า ทวิตเตอร์ไม่มีนโยบายที่จะเข้าลงทุนในสกุลเงินคริปโต เนื่องจากการนำเงินสดไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผล โดยสินทรัพย์ดังกล่าวมีความผันผวนสูง และไม่มีกฎระเบียบด้านการบัญชีในการกำกับดูแล

ขณะเดียวกัน ทางการจีนได้ออกคำสั่งเตือนไม่ให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการเกี่ยวข้องกับการขุดเหมืองคริปโต และจะลงโทษบริษัทที่ยังคงฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลด้วยการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น