“พรรคกล้า” ดันสวัสดิการผู้นำชุมชน พร้อมสู้เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.”

“พรรคกล้า” ดันสวัสดิการผู้นำชุมชน พร้อมสู้เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.”

“พรรคกล้า” ลงนาม “สัญญาประชาคม” ร่วมกับ ปธ.-กก.ชุมชนใน กทม.กว่า 400 คน ผลักดันให้มีค่าตอบแทน-สวัสดิการรักษาพยาบาล “อรรถวิชช์” ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” ดัน “กรณ์” สู่เส้นทางนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2564 ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์แจ้งวัฒนะ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมผู้บริหารพรรค ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ลงนามสัญญาประชาคมร่วมกับประธาน และกรรมการชุมชนกว่า 400 คน ร่วมกันผลักดันให้มีค่าตอบแทน สวัสดิการรักษาพยาบาล ให้กับประธานและกรรมการชุมชน การผลักดันให้มีการเบิกจ่ายเงินชุมชนเป็นโครงการรายปีได้ และผลักดันให้คณะกรรมการชุมชนเป็นโครงสร้างหลักในกฎหมายระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร

“พรรคกล้า” ดันสวัสดิการผู้นำชุมชน พร้อมสู้เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.”

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญคือประธานชุมชน เป็นคนที่ประชาชนเลือกมา แต่เจออุปสรรคกับระบบราชการล้าหลัง จึงตัดสินใจประชุมรวมกับผู้นำชุมชน กทม. 480 คน ใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี เพื่อระดมความเห็นทั้งเรื่องค่าตอบแทน การเบิกจ่ายงบประมาณชุมชนให้มีประสิทธิภาพ แต่หลายเงื่อนไขเป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติ ซึ่งราชการต้องปรับเกณฑ์ เรื่องเหล่านี้เป็นหนึ่งในการต่อสู้ระบบราชการหลัง ซึ่งจะสรุปส่งความคิดเห็นต่อกรุงเทพมหานครต่อไป 

นายอรรถวิชช์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสนามเลือกตั้งพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า พรรคกล้ามีความพร้อมเต็มที่ ที่จะส่งผู้สมัครทั้งระดับ ส.ก. และ ส.ส. คำว่าพรรคเน้นการให้โอกาสคนที่มีความชำนาญเฉพาะด้านแต่ไม่ได้เป็นนักการเมืองได้เข้าทำงานการเมือง 

“พรรคกล้า” ดันสวัสดิการผู้นำชุมชน พร้อมสู้เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.”

ส่วนสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคมีความตั้งใจส่งผู้สมัคร เพียงแต่ขณะนี้ทางรัฐบาลก็ดึงการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตอนนี้จึงยังมีเวลาที่จะเลือกบุคคลได้อีกพอสมควร ส่วนสเปกที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมืองมาก่อน แต่จะต้องเป็นผู้ที่มี DNA ตรงกันกับพรรค เน้นการปฏิบัติ ลงมือทำจริง ซึ่งขณะนี้ก็มีผู้สนใจหลายคนอยากลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. กับพรรคกล้า แต่ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ เพราะดูแล้วการเลือกตั้ง ส.ส. อาจจะเกิดขึ้นก่อนด้วยซ้ำไป 

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า พรรคกล้าจะเดินหน้านำประเทศไปสู่ความภราดรภาพ ไม่แบ่งซ้ายไม่แบ่งขวา ปลูกฝังอุดมการณ์ปฏิบัตินิยม เดินหน้าต่อสู้ระบบราชการหลัง ด้วยความทันสมัย พร้อมยืนยันเป้าหมายต้องได้ ส.ส.ในสภาไม่น้อยกว่า 25 ที่นั่ง เพื่อเดินหน้าเสนอชื่อนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เป็นนายกรัฐมนตรี

“พรรคกล้า” ดันสวัสดิการผู้นำชุมชน พร้อมสู้เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.”  

  • "กรณ์" ขอบคุณผู้นำชุมชนชี้ควรมีค่าตอบแทนเพื่อการทำงานอย่างเต็มที่ 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวภายในงานลงนามสัญญาประชาคมร่วมกับประธานและกรรมการชุมชนกว่า 400 คน ว่า ขอบพระคุณผู้นำชุมชนทุกคน ที่สละเวลาหลายชั่วโมงมาอยู่กับพรรคกล้าวันนี้ ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองกับชุมชนในกรุงเทพมหานคร และย้ำถึงช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าการมีผู้นำชุมชนที่ตั้งใจเสียสละทุ่มเทให้กับชุมชน มีผลต่อความอยู่รอดของลูกบ้าน ช่วงที่ผ่านมา พรรคกล้าเน้นทำงานอาสา แจกข้าวกล่อง พ่นยาฆ่าเชื้อ จัดตั้งศูนย์พักคอย แยกผู้ป่วยออกจากชุมชน ตัดวงจรการแพร่เชื้อ แต่แม้จะตั้งใจแค่ไหน ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชน ก็คงเข้าไม่ถึง การทำงานร่วมกันที่ผ่านมา พรรคกล้าจึงเป็นผู้ช่วย แต่พระเอกคือชุมชน 

"ประธานและกรรมการชุมชนมาทำงานด้วยความเป็นจิตอาสา จึงไม่อยากเรียกว่าค่าตอบแทน แต่สิ่งที่เราจะผลักดันร่วมกัน เป็นเงินสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้สมาชิกในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นเรื่องที่ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ส. พรรคกล้า เห็นตรงกันว่า ควรมีเงินตรงนี้ เข้ามาสนับสนุนให้ผู้นำชุมชน ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่" นายกรณ์ กล่าว 

ทั้งนี้ ทางประธานและคณะกรรมการชุมชน กทม. จากพื้นที่ต่างๆ ได้ออกมาสะท้อนปัญหาและความต้องการ ร่วมกันตอบแบบสอบถามผ่าน QR Code โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการให้มีค่าตอบแทนและสวัสดิการ การปรับเกณฑ์เบิกจ่ายงบประมาณชุมชนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการยกระดับคณะกรรมการชุมชน และลงนามสัญญาประชาคม ระหว่างนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ร่วมกับประธานและกรรมการชุมชนกรุงเทพมหานคร ทั้ง 480 คน