แจงวุ่น! แคมเปญ 11.11 บูทเข็ม 3 อสม.ด่านหน้า แพคคู่ชาวบ้านฉีดเข็มแรก

ผู้ว่าฯอุดรธานี แจงแคมเปญ 11.11 บูทเข็ม 3 อสม.ด่านหน้า แพคคู่ชาวบ้านฉีดเข็มแรก

จากกรณีจังหวัดอุดรธานี ประกาศจัดแคมเปญฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ให้ อสม. และเจ้าหน้าที่ด่านหน้ากลุ่มเสี่ยง แต่ต้องควงคู่ชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก มาฉีดแบบแพคคู่ 11/11 คือในวันที่ 11 เดือน 11 ทำให้หลายคนที่ยังไม่ได้ฉีดเข็มแรกโวย จนเกิดดราม่าว่าลงทะเบียนเข็มแรกยังไม่ได้ฉีด แต่คนไม่ได้ลงทะเบียนกลับจะได้ฉีดกับผู้ที่บูทเข็มที่ 3 แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 จากกรณีดังกล่าวนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุดรธานีมีประชากร 1.5 ล้านคน รับวัคซีนไปแล้วประมาณ 1.4 ล้านคน เข็มแรก 8.1 แสนคน (51.8%) เข็มสอง 6.1 แสนคน (39%) เข็มสาม 2.1 หมื่นคน (1.4%) มีบางส่วนอยู่ระหว่างศึกษาหรือได้รับข่าวสารผลกระทบจากวัคซีนบ้าง ซึ่งจังหวัดอุดรธานีก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะคนส่วนใหญ่ที่ฉีดแล้ว เรื่องการดูแลความปลอดภัยในกิจกรรมที่มีผู้คนเข้าไปรวมตัวอยู่บ้าง ขอให้ตรวจสอบว่าเป็นผู้ฉีดวัคซีนแล้ว หรือให้ตรวจหาเชื้อก่อน เช่นการเดินทางเข้ามาจังหวัด แต่ส่วนที่ยังไม่ได้ฉีด จึงได้กำหนดวันในการรณรงค์การฉีดวัคซีนของจังหวัดอุดรธานี ซึ่งรณรงค์การฉีดครั้งใหญ่ เหมือนวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาที่ระดมฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ได้ 47,000 โดส สูงเป็นอันดับ 1 ในเขตสุขภาพที่ 8

นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่า ส่วน แคมเปญวัคซีน 11 /11 เราได้กำหนดแผนในการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ของอุดรธานีอีกครั้ง โดยเป้าหมายคาดว่าจะมีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 ไม่น้อยกว่า 25,000 คน การจะฉีดให้ได้เท่าที่ตั้งเป้าหมายจำเป็นที่จะต้องกำหนดวิธีการคือ ประชาชนมีความสะดวกก็มีการฉีดวัคซีนแบบเชิงรุกในสถานที่เดินทางไปสะดวก เช่น รพ.สต. กำหนดวันนัดหมายเพื่อให้เตรียมความพร้อมร่างกายให้สมบูรณ์ก่อนมาฉีดวันที่ 11 เดือน 11 ซึ่งประชาชนมีความสนใจ โดยหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีได้กำหนดฉีดวัคซีนในแผนที่มีการปรับใหม่ในช่วงเวลานี้ให้กับคนทั่วไป คือคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ส่งวัคซีนมาอุดรธานีค่อนข้างเพียงพอ ต่อเนื่องยาวนานา ซึ่งสามารถ Walk in เดินเข้าไปฉีดโดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า


“วันที่ 11/11 จะมีการปรับแผนฉีดวัคซีนสำหรับคนทั่วไป คือผู้ที่ยังไม่เคยฉีดเลยเข็มแรกจะฉีดวัคซีนซิโนแวค หลังจากนั้น 3-4 สัปดาห์แพทย์จะแจ้งให้ไปรับเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนไฟเซอร์ โดยการปรับแผนของจังหวัดอุดรธานี คือ วัคซีนมีเพียงพอ มีประสิทธิภาพที่ดี สถานที่ฉีดเพียงพอและเข้าถึงได้ง่าย คือแผนระดมฉีดวัคซีนในวันที่ 11 เดือน 11 ของจังหวัดอุดรธานี เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งวันนี้เราได้เดินหน้า ทั้งเรื่องการประกอบอาชีพของประชาชน การใช้ชีวิต การส่งเสริมกิจกรรมต่างๆของจังหวัดอุดรธานี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยวัคซีนจึงเป็นทางเลือกที่ดี ทั้งตัวเองและสังคมชุมชนที่เราอยู่”

ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า ส่วนที่มีข่าวสารออกมาจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี กรณีผู้ที่จะไปฉีดบูทเข็ม 3 จะต้องมากับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนในวันที่ 11/11 นั้นเป็นแผนที่ยังไม่ได้ตกผลึกเราจะไปว่ากันอีกที เพราะตอนนี้หลายคนอยากได้วัคซีนเข็ม 3 ซึ่งเป้าหมายสำคัญต้องฉีดให้บุคลากรด่านหน้าก่อน โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าที่รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไปหลายเดือนแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะบูทให้กับบุคลากรเหล่านี้ก่อน เน้นที่ อสม. ส่วนประชาชนที่จะมาฉีดเข็มแรกไม่ได้บังคับแต่เป็นการขอความร่วมมือ ส่วนเรื่องมีการดราม่าว่าเป็นการระบายวัคซีนซิโนแวคให้ได้จำนวนมากนั้น เชื่อว่าวัคซีนตัวไหนก็จะทำให้ปลอดภัยขึ้น ถ้าซิโนแวคไม่ดีตัวผู้ว่าฯเองก็ฉีดซิโนแวค 2 เข็มเหมือนกัน


“กรณีเกิดดราม่าในโลกโซเชียลว่าทำไมต้องมีข้อแม้ คิดว่าเป็นความตั้งใจดีของหน่วยฉีด อยากเห็นคนรับวัคซีนมากที่สุด แต่ยังไม่ได้มีมติหรือคำสั่งใดๆ ในลักษณะนั้น เพราะการฉีดวัคซีนนั้นเป็นเรื่องความเต็มใจของแต่ละคนที่ฉีดเอง อยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีนให้เกิดความปลอดภัยทั้งตัวเองท่านเอง และ เกิดความปลอดภัยในภาพรวมจังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้ตั้งเป้าไว้ว่าก่อนปีใหม่ อยากเห็นคนอุดรธานีได้รับวัคซีนเข็มแรกอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ก่อนปีใหม่ แล้วเข็มสองก็จะตามมา”


ทางด้านนางสุวิมล จันทร์อุดม อายุ 35 ปี ชาวตำบลหมากแข้ง อ.เมือง อุดรธานี เล่าว่า ตนมารับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสต้าเซนเนก้า ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ตนก็รู้สึกกลัว แต่พอที่บ้านรับวัคซีนครบตนก็ตัดสินใจฉีด ทางจังหวัดจัดแคมเปญ ฉีดวัคซีนวันที่ 11/11 ตนยังไม่ทราบข่าว แต่ตนคิดว่าดีเพราะคนที่ยังไม่ได้ฉีดจะได้มาฉีดวัคซีน จะได้มั่นใจว่ามีวัคซีนที่จะไม่ให้เกิดอันตราย ในกรณีที่ในแคมเปญ มีการฉีดเข็ม2และเข็ม3 พาคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน มารับวัคซีน ตนคิดว่าโล่งใจขึ้นได้รับวัคซีนแล้ว มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ทำให้โรคติดต่อยาก และคนในบ้านปลอดภัยจากโควิดด้วย ในส่วนที่จะรับเข็ม3 นั้นจะคุ้มกันโรคได้ดีกว่า เพิ่มภูมิคุ้มกัน และตนก็ยินดีที่จะรับ


น.ส.จารุวรรณ บุตรดีคำ อายุ 21 ปี เป็นนักเรียน ชาว อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี บอกว่า ตนรู้สึกว่ามีแคมเปญฉีดวัคซีนวันที่ 11/11 คิดว่าแคมเปญนี้ดีเพราะว่าผู้สูงวัยที่เดินทางเข้ามาเองไม่ได้ หรือไม่มีลูกหลานพามาก็จะได้เดินทางมาด้วยกัน และถ้าเปิดแคมเปญข้อมูลจะได้ทั่วถึง ทางญาติจะได้พาคนแก่มาฉีด และทุกคนจะได้มีภูมิคุ้มกันหมู่