"กมธ.การเมือง ส.ว." ชี้ "การเมือง" ไม่ใช่ของคนรุ่นใหม่ แต่เป็นของคนทุกรุ่น

"กมธ.การเมือง ส.ว." ชี้ "การเมือง" ไม่ใช่ของคนรุ่นใหม่ แต่เป็นของคนทุกรุ่น

ปธ.กมธ.พัฒนาการเมือง วุฒิสภา นำเสนอรายงาน ชี้สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน พบคนใน-นอกสภาฯ ใช้ "เยาวชน" เป็นเครื่องมือ ทำการเมืองเลอะเทอะ ชี้การเมืองเป็นของคนทุกรุ่น

         ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การส่งเสริมความรู้ทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธาน กมธ.

 

         ทั้งนี้นายเสรี กล่าวต่อที่ประชุมด้วยว่า สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน พบว่ามีความขัดแย้งอย่างรุนแรงหลายเรื่อง แม้การแสดงออกทางการเมืองจะเป็นสิทธิ เสรีภาพของประชาชนน แต่ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบัน พบว่าได้สร้างการเรียนรู้ทางการเมืองให้กับเยาวชน คนรุ่นใหม่ในทางที่ผิด โดยเฉพาะที่บอกว่าการเมืองเป็นของคนรุ่นใหม่ คนยุคใหม่ คนอายุน้อย  ทั้งที่ข้อเท็จจริงการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นความรับผิดชอบของประชาชนทุกคน ทุกอาชีพ ทุกระดับ และความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นของคนรุ่นปัจจุบัน ที่หมายถึงคนอายุมาก คนวัยหนุ่มสาว ทุกคนที่อยู่ในยุค และช่วงเวลาเดียวกัน  และการเมืองไม่ใช่ของคนรุ่นใหม่ที่พูดถึง แต่เป็นของคนทุกคนที่เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าอายุเท่าไร เพื่อให้ตัดสินใจร่วมกัน  

 

 

\"กมธ.การเมือง ส.ว.\" ชี้ \"การเมือง\" ไม่ใช่ของคนรุ่นใหม่ แต่เป็นของคนทุกรุ่น

 

          "คนในสภาฯ และคนนอกสภาฯ บอกว่า​รู้เรื่องการเมือง  แต่ไม่ทำให้เกิดการเรียนรู้ และเข้าใจต่อการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง ทำให้การแสดงออกขาดจิตสำนึก เล่นการเมืองแบบเลอะเทอะ ไม่สร้างสรรค์ บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย เล่นการเมืองที่ไม่รักชาติ เล่นการเมืองโดยเอาเด็ก เยาวชนเป็นเครื่องมือต่อสู้เรียกร้องทางการเมือง ปลูกฝังทางการเมืองให้เด็กรุ่นใหม่ เรียนรู้ไปในทางที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากการเมืองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประะมุขที่แท้จริง ซึ่งการเสนอข้อคิดและถ้อยคำผิด ว่า การเมืองเป็นของคนรุ่นใหม่ ทำให้เข้าใจผิด เรียกร้องที่ผิด และทำให้เกิดความเห็นแตกตาง แตกแยกกับคนทุกรุ่น ” นายเสรี กล่าว

 

 

          ขณะที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ฐานะกมธ.การเมืองและอนุกมธ.ที่ศึกษารายงานฉบับดังกล่าว กล่าวตอนหนึ่งว่าประชาธิปไตยเกิดไม่ได้ หากคนในชาติไม่รักบ้านรักเมือง คนในประเทศต้องต้องสำนึกร่วมกัน และเคารพสิทธิของคนอื่น ไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น 

 

\"กมธ.การเมือง ส.ว.\" ชี้ \"การเมือง\" ไม่ใช่ของคนรุ่นใหม่ แต่เป็นของคนทุกรุ่น

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณารายงานดังกล่าว มีส.ว. แสดงความเห็นสนับสนุน พร้อมเสนอแนะด้วยว่า พรรคการเมือง หรือสถาบันทางการเมืองควรมีส่วนร่วมต่อการสนับสนุนให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

 

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อจากนั้น กมธ.พัฒนาการเมือง ยังนำเสนอรายงาน เนวทางการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย แบบมีส่วนร่วม กรณีเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนระดับอำเภอ

 

            โดยนายเสรี กล่าวตอนหนึ่งว่า มีความจำเป็นที่ต้องให้เด็กได้ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศได้เรียนรู้ในทางปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ยั่งยืน ทั้งนี้ในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ต  ทำให้เกิดกลุ่มพลังเยาวชนที่แสดงออก ปรากฎต่อสาธารณะ เป็นช่องทางให้คนบางคน หรือนักการเมืองบางส่วนใช้โอกาส แนวทางต่อสู้ทางการเมือง ด้วยการแฝงเบื้องหลังเด็กสร้างความขัดแย้งและปัญหาให้คนทั้งประเทศ และจาบจ้วงสถาบัน เมื่อถูกดำเนนิคดีกลับกล่าวอ้างว่าใช้กฎหมายลงโทษเด็ก.