ตร.แจงปม ขบวนรถ"วีไอพี" ย้อนศร เป็นของ สน.ทองหล่อ หวังแก้ปัญหารถติด

ตร.แจงปม ขบวนรถ"วีไอพี" ย้อนศร เป็นของ สน.ทองหล่อ หวังแก้ปัญหารถติด

บช.น. สอบรถนำขบวนวีไอพีขับย้อนศร พบเป็นของ สน.ทองหล่อ หวังแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดชั่วโมงเร่งด่วน ชี้หากไม่ถูกต้องมีความผิดวินัย

4 พ.ย.2564 จากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่งได้แชร์คลิปผ่านสังคมออนไลน์เป็นคลิปขบวนรถวีไอพีขับย้อนศรสวนเลน หนำซ้ำมีรถจักรยายนต์ตำรวจ ขับขี่นำขบวนอยู่ด้วย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ซึ่งส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยกับการกระทำของหญิงคนดังกล่าวที่ยืนยันจะไม่หลบให้กับขบวนรถดังกล่าวแต่อย่างใด

ล่าสุด พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากทาง สน.มักกะสัน แล้ว โดยจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณถนนกำแพงเพชร 7 ปกติจุดนี้ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า 06.00-09.00 น. จะมีการจัดให้เดินรถทางเดียว ซึ่งทั้ง 2 ช่องทางจะออกมาที่บริเวณปากซอยเพชรอุทัย ทั้งนี้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตำรวจจราจรท้องที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ระบายรถในจุดอื่น และเห็นว่าจุดดังกล่าวไม่ได้มีปัญหามาก จึงไม่มีตำรวจมาประจำจุดนั้น กระทั่งวันเกิดเหตุกลับมีปัญหาการจราจรในถนนกำแพงเพชร 7 ทางตำรวจจึงเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหา จัดระบบเป็นการเดินรถทางเดียว แต่ก็มีปัญหาตามคลิปที่เผยแพร่ไปดังกล่าว

สำหรับที่มีสังคมออนไลน์ระบุว่ารถที่นำมาเป็นรถนำขบวนของ วีไอพี นั้น เป็นรถตำรวจพื้นที่ข้างเคียง สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็น สน.ข้างเคียงกับเจ้าของพื้นที่ สน.มักกะสัน โดยตำรวจพื้นที่เมื่อเห็นว่า จุดดังกล่าวมีการจราจรติดขัดอย่างหนัก จึงประสานให้ สน.พื้นที่ข้างเคียง เข้ามาช่วยอำนวยการการจราจร เพราะการจราจรติดยาวท้ายแถวไปถึงพื้นที่ สน.ทองหล่อ

อย่างไรก็ตามทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงมีการสั่งการให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ ทำการตรวจสอบที่มีการนำรถของสถานีมายังจุดดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ และให้ชี้แจงมาทาง บช.น. หากพบว่าทำไม่ถูกต้อง มีความผิดทางวินัย จะมีการดำเนินการโดยเคร่งครัด ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นบทเรียน จะได้มีการกำชับตำรวจทั่วไป ว่าหากมุ่งที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ประชาชนมีตวามเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ตลอดจนมีปลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ใช่เป็นการนำขบวน วีไอพี แต่อย่างใด ที่สำคัญการนำขบวนต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจ บก.จร. ซึ่งจะมีระเบียบ ว่าจะมีบุคคลระดับใดบ้าง ที่สามารถจะมีรถนำได้ ซึ่งในกรณีนี้เป็นเพียงตำรวจ จราจร พื้นที่ และข้างเคียง ที่มีเจตนารมณ์เดียวที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรในช่วงจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น”