ตร. เผยผลกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศทั้ง "โลกออนไลน์ -คดีทั่วไป-ยาเสพติด"

ตร. เผยผลกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศทั้ง "โลกออนไลน์ -คดีทั่วไป-ยาเสพติด"

สตช. แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนทั่วประเทศ ทั้งในโลกออนไลน์กวาดล้างผู้ต้องหาได้กว่า 4 พันคน และก่อคดีทั่วไปอีกกว่า 3 หมื่นคน โดยเฉพาะเป็นการซ้ำเติมประชาชนห้วงโควิด-19 รวมถึงอาชญากรรมที่เป็นภัยกับสังคมส่วนรวม

2 พ.ย.2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นประธานการแถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และเป็นภัยกับสังคม โดยมีพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ฝ่ายงานสืบสวบสอบสวน), พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ฝ่ายงานความมั่นคง) และพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ฝ่ายงานป้องกันปราบปราม) และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมการแถลงผลการปฏิบัติฯ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวชี้แจงผลการปฏิบัติงานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและเป็นภัยกับสังคม โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีอาชญากรรมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในหลายรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงระหว่างวันที่ 20-31 ต.ค. 64

สำหรับผลการจับกุมคดีสำคัญที่ผ่านมา อาทิ คดีเกี่ยวกับยาเสพติด 30,582 คดี ผู้ต้องหา 29,871 คน ของกลาง ยาบ้า 31,768,663 เม็ด, ไอซ์ 2,420.25 กิโลกรัม, เฮโรอีน 111.31 กิโลกรัม, เคตามีน 80.74 กิโลกรัม และ กัญชา 6,927.69 กิโลกรัม คดีอาวุธปืน 5,505 คดี ผู้ต้องหา 4,983 คน อาวุธปืน 2,932 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน 10,316 นัด และวัตถุระเบิด 16 ลูก คดีค้ามนุษย์ 7 คดี ผู้ต้องหา 12 คน หมายจับค้างเก่า 17,791 หมาย ผู้ต้องหา 17,791 คน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3,964 คดี ผู้ต้องหา 3,804 คน อาชญากรรมทั่วไป 58,524 คดี ผู้ต้องหา 62,211 คน

สำหรับการจับกุมอาญากรรมทั่วไป On Ground ได้จับกุมผู้ต้องหา 58,524 ราย ผู้ต้องหา 62,211 คน โดยมีผลการปฏิบัติแยกตามความผิด ตามหน่วยดังนี้ ด้านยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุม 73 คดี ผู้ต้องหา 88 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 11,418,343 เม็ด, เฮโรอีน 44 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 245 กิโลกรัม เคตามีน 10 กิโลกรัม

กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุม 1,277 คดี ผู้ต้องหา 1,237 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 28,332 เม็ด, เฮโรอีน 0.021 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 1.74 กิโลกรัม, เคตามีน 0.2 กิโลกรัม และกัญชา 2.35 กิโลกรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จับกุม 1,076 คดี ผู้ต้องหา 1,092 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 740,800 เม็ด, ยาไอซ์ 1,135 กรัม, เคตามีน 24.37 กรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จับกุม 2,147 คดี ผู้ต้องหา 2,169 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า262,113 เม็ด, เฮโรอีน 0.16 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 4.67 กิโลกรัม, เคตามีน 3.04 กิโลกรัม และกัญชา 20 กิโลกรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จับกุม 2,507 คดี ผู้ต้องหา 2,546 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 569,352 เม็ด, ยาไอซ์ 0.325 กิโลกรัม, และกัญชา 1,843 กิโลกรัม 145 กรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จับกุม 6,204 คดี ผู้ต้องหา 6192 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 1,678,560 เม็ด, เฮโรอีน 0.755 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม และกัญชา 2,908 กิโลกรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จับกุม 3,567 คดี ผู้ต้องหา 2,681 คน จำนวนของกลาง ยาบ้าประมาณ 16,000,000 เม็ด, เฮโรอีนประมาณ 10 กิโลกรัม, ยาไอซ์ประมาณ 350 กิโลกรัม และกัญชาประมาณ 10 กิโลกรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 จับกุม 3,383 คดี ผู้ต้องหา 3,291 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 160,761.5 เม็ด, ยาไอซ์ 1.689 กิโลกรัม, และกัญชา 8.36 กิโลกรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จับกุม 5,104 คดี ผู้ต้องหา 5,079 คน จำนวน ของกลาง ยาบ้า 169,937 เม็ด, เฮโรอีน ๒๓.๓๘ กรัม, ยาไอซ์ 831.47 กรัม, เคตามีน 189.78 กรัม และกัญชา 97,372.98 กรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จับกุม 1,433 คดี ผู้ต้องหา 1,463 คน จำนวนของกลางยาบ้า 58,490 เม็ด, เฮโรอีน 21.2 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 682.88 กิโลกรัม, เคตามีน 42.98 กิโลกรัม และกัญชาแห้ง 49.45 กิโลกรัม, กัญชาสด 124.27 กิโลกรัม

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จับกุม 1,251 คดี ผู้ต้องหา 1,301 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 577,966 เม็ด, ยาไอซ์ 0.67 กรัม, กัญชาแห้ง 13 กิโลกรัม, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม 634 คดี ผู้ต้องหา 595 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 10,337.5 เม็ด, เฮโรอีน 0.00015 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 0.07032 กิโลกรัม, และกัญชา 1,153.38 กิโลกรัม

สรุปผลการระดมจับกุมความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ในภาพรวมมีผลการจับกุม 30,582 ราย ผู้ต้องหา 29,871 คน จำนวนของกลาง ยาบ้า 31,768,663 เม็ด ยาไอซ์ 2,420.25 กิโลกรัม เฮโรอีน 111.31 กิโลกรัม เคตามีน 80.74 กิโลกรัม กัญชา 6,927.69 กิโลกรัม

ด้านอาวุธปืน มีการจับกุม 5,505 คดี ผู้ต้องหา 4,983 คน จำนวนของกลาง 2,932 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 10,316 นัด วัตถุระเบิด 16 ลูก มีผลการจับกุมคดีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ในการระดมกวาดล้างในห้วงที่ 2 มีการจับกุม 5,503 คดี ผู้ต้องหา 4,980 คน จำนวนของกลาง 2,913 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 9,726 นัด วัตถุระเบิด 16 ลูก และ การจับกุมคดีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลจากการซื้อขายอาวุธปืนจากเว็บไซต์ และนำมาซึ่งการขยายผลเข้าตรวจค้น 226 เป้าหมายทั่วประเทศ ผลการปฏิบัติ สามารถตรวจยึดอาวุธปืนจำนวนได้ 75 กระบอก

ผลการจับกุมคดีค้ามนุษย์ จับกุม 7 คดี ผู้ต้องหา 12 คน ผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า จับกุม 17,791 หมาย ผู้ต้องหา 17,791 คน

2. การจับกุมอาญากรรมทางเทคโนโลยี Online จับกุม 3,964 ราย ผู้ต้องหา 3,804 คน มีผลการปฏิบัติดังนี้ การหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน จำนวน 439 ราย ผู้ต้องหา 496 คน, การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์ และสินค้าผิดกฎหมาย จำนวน 623 ราย ผู้ต้องหา 538 คน, การเผยแพร่ข่าวปลอม และคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 826 ราย ผู้ต้องหา 662 คน, การล่อลวงละเมิดทางเพศต่อเด็ก หรือสตรีทางอินเตอร์เน็ต และค้ามนุษย์ จำนวน 211 ราย ผู้ต้องหา 209 คน, การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และอื่นๆ จำนวน 1,865 ราย ผู้ต้องหา 1,899 คน