"ไทยสร้างไทย"ช่วย "ครูน้อย"แม่พระเด็กยากไร้ พร้อมดันบำนาญปชช. ดูแล

"ไทยสร้างไทย"ช่วย "ครูน้อย"แม่พระเด็กยากไร้ พร้อมดันบำนาญปชช. ดูแล

"ศิธา" นำทีม "ไทยสร้างไทย" ลงพื้นที่ช่วยครูน้อย-เด็กยากจน ชู เป็นปูชนียบุคคล มีคุณูปการต่อสังคม ชี้ ไม่ได้รับโอกาสจากรัฐ เหมือนในต่างประเทศ พร้อมดัน นโยบาย "บำนาญประชาชน" ตอบแทนผู้สูงอายุ "เกณิกา" เผย คนเร่ร่อนมากขึ้นจากปัญหาศก. จี้ รัฐ เร่งแก้เหลื่อมล้ำ

พรรคไทยสร้างไทย นำโดย น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยและพัฒนาพรรคพร้อมด้วย น.ส.เกณิกา ตาปสนันทน์ และทีมงาน ลงพื้นที่สถานสงเคราะห์เด็กยากจน เพื่อช่วยเหลือนางนวลน้อย ทิมกุล หรือ ”ครูน้อย” โดยมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 10,000 บาท

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ครูน้อย นับว่าเป็น ปูชนียบุคคลของด้านการทำสังคมสงเคราะห์ที่มีคุณูปการกับสังคมไทย เพราะได้ช่วยเหลือเด็กที่มีฐานะยากจน ให้ได้มีโอกาสทางการศึกษา และมีสิทธิได้รับการศึกษาภาคบังคับเท่าเทียมกับเด็กคนอื่นๆ

ครูน้อย เป็นตัวอย่างที่สร้างคุณูปการให้กับประเทศชาติมาอย่างยาวนาน จึงไม่ควรถูกปล่อยให้นอนติดเตียงอยู่ที่บ้าน อีกทั้งยังเป็นผู้สูงอายุที่ให้โอกาสในการช่วยเหลือคนไร้บ้าน และคนเร่ร่อน แต่ครูน้อยกลับไม่ได้รับโอกาสจากรัฐ ซึ่งในต่างประเทศกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้จะได้รับสวัสดิการที่ดี แม้แต่คนพิการยังได้รับบริการขึ้นแท็กซี่ฟรี แต่สำหรับบุคคลที่เคยช่วยเหลือคนเป็นหลายพันชีวิต กลับต้องนอนติดเตียง และไม่ได้รับสวัสดิการใดจากภาครัฐ มีเพียงบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค และเบี้ยผู้สูงอายุ 800 บาท 

อ่านข่าว : "สุดารัตน์"ลั่นออกมาสร้างบ้านหลังใหม่ ไม่หันหลังกลับ "เพื่อไทย"

จึงเป็นเหตุผลที่พรรคไทยสร้างไทย มีนโยบาย เพื่อตอบแทนผู้สูงอายุให้อยู่อย่างมีคุณค่า และมีศักดิ์ศรี ด้วยนโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจให้กับผู้เสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองสามารถขับเคลื่อนทางสังคมได้” น.ต.ศิธากล่าว

ด้าน น.ส.เกณิกา กล่าวว่า ปัจจุบันหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกที่ 3 และ4 ผ่านมา ทำให้เกิดคนเร่รอน และคนไร้บ้านจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ ที่คนตกงาน และการเลิกจ้าง โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างจังหวัด และเข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร ที่ได้กลายเป็นคนไร้บ้าน คนเร่รอน ซึ่งอาศัยอยู่ตามแนวถนนราชดำเนิน และอีกหลายจุดในกรุงเทพมหานคร ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับการเหลียวแล และช่วยเหลือจากภาครัฐ แม้ว่าบางคนจะอยู่ในระบบประกันสังคม แต่เงินที่ส่งไป ก็ไม่สามารถเบิกออกมาในยามที่วิกฤติได้ ต้องรอให้ครบตามกำหนดถึงจะเบิกออกมาได้ 

“ยิ่งวิกฤติโควิดกับวิกฤติเศรษฐกิจทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่าไหร่ คนไร้บ้าน กับคนเร่รอน ก็เพิ่มจำนวนมากตามเท่านั้น ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น รัฐจะต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนกลุ่มนี้ เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระให้กับคนอื่นๆในวันหน้า และดัชนีความเหลื่อมล้ำทางสังคมไทยก็จะต่ำลง” น.ส.เกณิกา กล่าว