“ในหลวง” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดบวรนิเวศวิหาร 

“ในหลวง” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดบวรนิเวศวิหาร 

"ในหลวง - ราชินี" เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ทอดพระเนตร นิทรรศการ พระมหาสมณานุสรณ์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าคุณพระสินีนาฏ โดยเสด็จ  

วันนี้ (30ต.ค.64) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร

เวลา 16.50 น. รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูวัดบวรนิเวศวิหารหน้าพระอุโบสถ
เสด็จ ฯ ไปยังพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาส

 

“ในหลวง” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดบวรนิเวศวิหาร 

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงยืนหน้าพระราชอาสน์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงยืนหน้าพระเก้าอี้ที่ประทับ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ยืนหน้าเก้าอี้ที่จัดไว้

“ในหลวง” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดบวรนิเวศวิหาร 

 

เสด็จขึ้นไปบนฐานชุกชี ทรงชักสายสูตรห่มผ้าทรงสะพักพระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ทรงห่มผ้าทรงสะพักพระพุทธสยามาภิวัฒนบพิตรภูมิพล สหัสสทิวัสรัชการี ปัณณสวรรษศรีอุภัยมหามงคล พระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษา 50 พรรษา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

ทรงห่มผ้าทรงสะพักพระพุทธวิโลกนญาณบพิตร สิริกิติธรรมโสตถิมงคล พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ทรงคม

 

“ในหลวง” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดบวรนิเวศวิหาร 

 

เสด็จลงจากฐานชุกชี ทรงพระสุหร่ายพระวิสูตรทองหน้าพระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 6 และพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 9 ทรงกราบ

ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา แล้วทรงยืน ณ ที่นั้น เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ จบแล้ว ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า “นะโม ตัสสะ ฯ” จบ 3 หน แล้วผินพระพักตร์สู่ที่ชุมนุมสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน  ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ 

 

“ในหลวง” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดบวรนิเวศวิหาร 

เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระอัฐิสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) พระราชกรรมวาจาจารย์ ทรงคม

ทรงทอดผ้าไตร 5 ไตร บนพระภูษาโยงที่อาสน์สงฆ์ประทับพระราชอาสน์ เสด็จฯ ไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ประทับพระราชอาสน์ ทรงหลั่งทักษิโณทก เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ เสด็จออกจากพระอุโบสถ เสด็จ ฯ ไปยังตำหนักเพ็ชร เสด็จขึ้นชานพระระเบียงตำหนักเพ็ชร ประทับพระราชอาสน์ 

พลเอก ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์
การจัดนิทรรศการพระมหาสมณานุสรณ์ ทรงยืน และทรงยื่นพระหัตถ์เหนือแท่นพิธีเปิดนิทรรศการพระมหาสมณานุสรณ์ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประทับพระราชอาสน์ 

ทอดพระเนตรวีดิทัศน์พระราชดำรัส ที่ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และทอดพระเนตรนิทรรศการพระมหาสมณานุสรณ์ ซึ่งถ่ายภาพมาจากสถานที่ต่าง ๆ ทั่วพระอาราม 

เสด็จลงจากชานพระระเบียงตำหนักเพ็ชร สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และพระเถระผู้ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ 4 รูป ซึ่งประกอบด้วย พระธรรมวิสุทธาจารย์ พระธรรมวชิรญาณ พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ พระเทพวชิรมุนี ถวายของที่ระลึกแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และมอบของที่ระลึกแด่เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี 

เสด็จฯ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ไปยังวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ซึ่งเป็นวัดที่ 2

วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุต สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างใหม่ในรัชกาลนั้น ที่ทำการปลงศพเจ้าจอมมารดา (น้อย) ซึ่งเป็นเจ้าจอมของพระองค์เจ้าดาราวดี พระราชชายา ระหว่าง พ.ศ. 2367 และพ.ศ.2375
 
อีกทั้งเป็นที่กำเนิด มหามกุฏราชวิทยาลัย สถานศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณร การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ที่เสด็จออกทรงผนวชนับตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลปัจจุบัน  

รวมทั้งเป็นสถานที่ประดิษฐานสิ่งสำคัญ อาทิ พระพุทธชินสีห์  เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ตามตำนานเล่าว่า พระเจ้าศรีธรรมปิฎก เจ้าเมืองนครเชียงแสน ทรงหล่อขึ้นพร้อมกับพระพุทธชินราชและพระศาสดา เมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1500
พระพุทธสยามาภิวัฒนบพิตรภูมิพล สหัสสทิวัสรัชการีปัณณสวรรษศรีอุภัยมหามงคล พระพุทธรูปปางลีลา ขนาดเท่าพระองค์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สูง 172 เซนติเมตร  สร้างขึ้นเมื่อครั้งทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบพระนักษัตร 84 พรรษา 


พระพุทธวิโลกนญาณบพิตร สิริกิติธรรมโสตถิมงคล พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร(ปางรำพึง)ขนาดเท่าพระองค์ขึ้น เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2520 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้บนฐานชุกชีเบื้องพระหัตถ์ซ้ายพระพุทธชินสีห์ภายในพระอุโบสถ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา