"สมชัย" บอก "เพื่อไทย" ถอดบทเรียน "ทักษิณ" เตือนเกิดขัดแย้ง

อดีต กกต. ประเมิน เพื่อไทย ชู "บุตรสาวทักษิณ" นำพรรค ควรถอดบทเรียนความขัดแย้ง หาก "ทักษิณ" กลับ ต้องมาตามกฎหมาย อย่านิรโทษกรรม ชี้อนาคตเลือกตั้ง "ประยุทธ์" ยังเป็นจุดชี้วัด

            นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ฐานะนักวิชาการด้านการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ต่อการปรับกลยุทธ์ และยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมเลือกตั้ง ว่า ตนไม่แน่ใจว่ายุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยที่เปิดตัวขณะนี้จะทำให้ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์หรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ส่วนกรณีที่พรรค เปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และมีประเด็นพานายทักษิณกลับบ้านนั้น ตนมองว่าพรรคเพื่อไทยอาจประเมินว่าสิ่งที่ประกาศได้ผลบวกมากกว่าผลลบ แต่อย่าลืมว่ายังมีฝ่ายที่ไม่ชอบนายทักษิณอยู่

 

 

 

            "กรณีของพรรคเพื่อไทยชูน.ส.แพทองธาร และอาจถูกวางตัว เป็นแคนดิเดตนายกฯ ส่วนหนึ่งต้องการให้เชื่อมโยงกับนายทักษิณ และเรียกคะแนนนิยมจากประชาชน  แต่ผมมองว่าประเด็นสำคัญไม่ใช่อยู่ที่นำนายทักษิณกลับบ้าน หรือชูบุคคล แต่พรรคเพื่อไทยควรมีนโยบายปรับปรุงประเทศให้ดีขึ้น อย่าเอาตัวบุคคลเป็นประเด็นหลักหากนายทักษิณจะกลับ ต้องใช้วิธีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะจะทำให้เกิดความไม่สงบ นอกจากนั้นพรรคเพื่อไทยควรเรียนรู้ความผิดพลาดในอดีต และไม่เดินตามอีก” นายสมชัย กล่าว 

อ่านข่าว : ผ่าอาณาจักรธุรกิจ “ชินวัตร” 19 บ.ในมือ “อุ๊งอิ๊ง” ก่อนนั่งกุนซือ “เพื่อไทย”

            นายสมชัย ยังประเมินถึงปัจจัยชี้วัดต่อการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า อยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะรับเป็นนายกฯอีกรอบหรือไม่ หากอาสาและมีพรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกฯ ประเด็นตัดสินใจของประชาชน อยู่ที่ จะเอาหรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์  

 

 

            “สถานการณ์ของพรรคพลังประชารัฐที่มีจุดอ่อนและขัดแย้งภายในพรรค ผมมองว่าผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐจะประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสินค้าที่ควรเสนอต่อประชาชนหรือไม่ ถ้าทำโพล แล้วเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีประโยชน์ อาจไม่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรืออาจเสนอจำนวน3ชื่อ แทนเสนอชื่อเดียว เพื่อให้มีทางเลือก หากเป็นเช่นนั้นสถานการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์จะไม่มั่นคง” นายสมชัยกล่าว

 

            เมื่อถามว่าเงื่อนไขของพล.อ.ประยุทธ์ ประเด็นดำรงตำแหน่ง 8 ปี จะเป็นประเด็นหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า เชื่อจะถูกนำมาเป็นประเด็นหลักในการหาเสียง  แต่ไม่เชื่อว่า จะมีการส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะหากมีความไม่ชัดเจน ทุกพรรคสามารถนำเรื่องนี้โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ได้ ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์จะเสนอเอง เพราะเชื่อว่าการตัดสินจะเป็นคุณกับตนเอง 

            เมื่อถามถึงการเปรียบเทียบแคนดิเดตนายกฯ​ระหว่าง พล.อ.ประยุทธุ์ กับ น.ส.แพทองธาร ใครได้เปรียบกว่ากัน นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ เพราะไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่หากเทียบตัวต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์ เหนือกว่า เพราะรับราชการมานาน มีประสบการณ์สูงกว่าน.ส.แพทองธาร  แต่ตอบไม่ได้ว่าประชาชนจะเลือกใคร 

 

            เมื่อถามว่ากรณีของน.ส.แพทองธาร อาจชนะได้โดยโมเดล49วันเหมือนสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสมชัย กล่าวว่า เวลา 49 วันยิ่งกว่าพอ พิสูจน์ให้เห็นได้จากกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์  แม้ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยทีมงาน โดยตนเชื่อว่าทีมงานของพรรคเพื่อไทยยุคนี้ไม่ด้อยกว่าทีมงานสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์.

 

            เมื่อถามว่ากรณีที่ยังมีส.ว.250 คนเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา จะเป็นอุปสรรคให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลหรือไม่ นายสมชัย กล่าวโดยเชื่อว่า ส.ว. ต้องประเมินตนเองว่าจะฟังความต้องการของประชาชน หรือความต้องการขอผู้มีอำนาจที่แต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่  ส.ว.ต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลัก เพราะส.ว.อยู่ไม่นาน ควรทำตัวให้สังคมชื่นชม และตัดสินใจตามความต้องการของประชาชน.