"โฆษกรัฐบาล" ลงพื้นที่ "ภูเก็ตแซนบ็อก" เช็คความพร้อมต่อยอดเปิดประเทศ

"โฆษกรัฐบาล" ลงพื้นที่ "ภูเก็ตแซนบ็อก" เช็คความพร้อมต่อยอดเปิดประเทศ

"โฆษกรัฐบาล" ตรวจความพร้อม "ภูเก็ตแซนบ็อก"  ต่อยอดเปิดประเทศ บรรยากาศคึกคักทั้งชาวไทยและต่างชาติ มั่นใจสร้างรายได้ให้ประเทศ ย้ำ "นายก" เดินมาถูกทางสร้างสมดุลรักษาโควิดและเปิดทำมาหากิน

23 ต.ค.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ต บรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกลับมาคึกคักมากตามโครงการภูเก็ตแซนบ็อก ตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตสังเกตเห็นได้ว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาใช้บริการมากเพิ่มขึ้นทั้งขาเข้าและขาออกด้วย

ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจบรรยากาศโดยรอบแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ตพบเห็นได้กิจการร้านค้า กลับมาเปิดให้บริการเกือบในระดับปกติด้วย จากการลงไปพูดคุยสอบถามกับผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า-แม่ค้า ฝากขอบคุณรัฐบาลที่ให้ “ภูเก็ต” เป็นจังหวัดนำร่องในการเปิดประเทศ

รวมทั้งยังได้ฝากขอบคุณนายกรัฐมนตีที่ยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ล่าสุดรัฐบาลเพิ่มเงินในโครงการคนละครึ่งเพิ่มอีก 1,500 บาท สนับสนุนการใช้จ่ายในช่วงสองเดือนสุดท้ายปลายปีด้วย

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรายงานว่า  จำนวนนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1-21 ตุลาคม นี้ สะสม 113 วัน จำนวน 53,120 คน มียอดเงินใช้จ่ายแล้วกว่า 3,192  ล้านบาท 

อ่านข่าว : “นายกฯ ” ขอสื่อช่วยขยายนโยบายเปิดประเทศ และขอความร่วมือประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้ลงนามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 18/2564  เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548  เพิ่มจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด เริ่ม 1 พฤศจิกายน นี้ รวมทั้ง ศบค. ออกข้อกําหนด ฉบับที่ 36 ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ "ยกเลิกเคอร์ฟิว" ในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยว ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผลต้ังแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ตุลาคม นี้

ซึ่งจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศทั้งการ "เปิดประเทศ" และการท่องเที่ยวภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ศบค. ยังคงห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงปิดให้บริการ ระหว่างนี้ รอให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อผ่อนคลายมาตรการต่อไป

“โครงการภูเก็ตแซนด์ และเปิดประเทศ และเพิ่มที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 1 พ.ย. นี้  นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจสร้างโอกาสด้านการท่องเที่ยว เพื่อพี่น้องประชาชน เอกชน สามารถกลับมาทำมาหากิน เปิดกิจการได้อีกครั้ง สิ่งสำคัญทุกคนต้องช่วยกันปฎิบัตตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว