รฟท. งดเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ 12 ขบวน เป็นการชั่วคราว หลังน้ำท่วม

รฟท. งดเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ 12 ขบวน เป็นการชั่วคราว หลังน้ำท่วม

การรถไฟแห่งประเทศไทย งดเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ 12 ขบวน เป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยของผู้โดยสาร ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.64 เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.64 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายจังหวัดจนทำให้เกิดน้ำท่วม ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลเข้าท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีบำเหน็จณรงค์ - จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ และระหว่างสถานีกุดจิก - โคกกรวด จังหวัดนครราชสีมา ส่งผลกระทบในด้านความปลอดภัยในการเดินรถในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม จึงจำเป็นต้องประกาศงดเดินขบวนรถสายตะวันออกเฉียงเหนือสาย จำนวน 12 ขบวน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยของผู้โดยสาร ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  1. ขบวนรถเร็วที่ 135/136 กรุงเทพ - อุบลราชธานี - กรุงเทพ  
  2. ขบวนรถเร็วที่ 139/140 กรุงเทพ - อุบลราชธานี - กรุงเทพ
  3. ขบวนรถด่วนที่ 71/72 กรุงเทพ - อุบลราชธานี - กรุงเทพ
  4. ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพ - หนองคาย - กรุงเทพ
  5. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23/24 กรุงเทพ - อุบลราชธานี - กรุงเทพ
  6. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 433/434 ชุมทางแก่งคอย - ชุมทางบัวใหญ่ - ชุมทางแก่งคอย

ในส่วนความคืบหน้าขณะนี้ เจ้าหน้าที่ รฟท. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายในเบื้องต้น พบว่าเส้นทางรถไฟช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 296/7-297/1 ระหว่างสถานีบำเหน็จณรงค์ - จตุรัส สภาพทางได้รับความเสียหายปานกลางโดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะขยายเป็นวงกว้าง

ส่วนเส้นทางรถไฟช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 244/1-245/1 ระหว่างสถานีระหว่างสถานีกุดจิก - โคกกรวด พบความเสียหายมาก เนื่องจากหินบนทางรถไฟถูกพัดไปกับกระแสน้ำ

อีกทั้งระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ฝ่ายการช่างโยธาเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ โดยให้เฝ้าระวังสังเกตการณ์ระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง

 สำหรับประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้า สามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย