“ดุสิตโพล”เปิดผลสำรวจคนไทยร้อยละ 60 ยังไม่พร้อมเปิดประเทศ1พ.ย.นี้

“ดุสิตโพล”เปิดผลสำรวจคนไทยร้อยละ 60 ยังไม่พร้อมเปิดประเทศ1พ.ย.นี้

“ดุสิตโพล”เปิดผลสำรวจคนไทยร้อยละ 60 ยังไม่พร้อมเปิดประเทศ1พ.ย.นี้ ชี้ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน หวั่นเปิดรับนักท่องเที่ยวไม่กักตัว เสี่ยงระบาดรอบใหม่

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2564 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “เปิดประเทศ 1 พ.ย.64” กลุ่มตัวอย่าง 1,392 คน ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2564 พบว่า ประชาชนมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดประเทศ                         รับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ร้อยละ 60.10 ปัจจัยที่จะทำให้เปิดประเทศได้ คือต้องฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนได้เกิน 70% ร้อยละ 74.78 และมองว่าข้อจำกัดคือ ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน ร้อยละ 71.60 ผลดีของการเปิดประเทศคือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 77.29 ผลเสียคือ อาจเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 83.43 และภาพรวมประชาชนไม่เห็นด้วยกับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. 2564 ร้อยละ 59.86

จากผลการสำรวจเมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่างจำแนกรายอาชีพ พบว่า กลุ่มอาชีพประกอบธุรกิจเห็นด้วยกับการเปิดประเทศมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มรับจ้าง/ลูกจ้าง ถึงแม้ว่าจะกังวลเรื่องการติดเชื้อใหม่ แต่ก็คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดการจ้างงานมากขึ้น สร้างความหวังที่จะลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งด้านสุขภาพและการฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน

จากการที่รัฐบาลมีนโยบาย “เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเดินทางมาจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว” ถือเป็นความเสี่ยงที่ท้าทายมาก เนื่องจากจำนวนประชากรคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศแล้วนั้น ยังมีจำนวนตัวเลขเพียงแค่ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น 

ซึ่งผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล พบว่าประชาชนร้อยละ 60.10 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะให้ประเทศชาติเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีค่า GDP ที่สูงขึ้น แน่นอนว่าเมื่อการเปิดประเทศเกิดขึ้นจริง ธุรกิจทุกภาคส่วนย่อมต้องมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าซึ่งต้องใช้แรงงานคนมากขึ้น อาจมีการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายได้ รัฐบาลควรทำให้คนเหล่านี้ถูกกฎหมายเพื่อที่จะได้รับการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยของแรงงานต่างด้าวและประชาชนภายในชาติของเราด้วยเช่นเดียวกัน
 

นายวัลลภ ห่างไธสง รองคณบดี โรงเรียนกฎหมายเเละการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจากการที่รัฐบาลมีนโยบาย “เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเดินทางมาจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว” ถือเป็นความเสี่ยงที่ท้าทายมาก เนื่องจากจำนวนประชากรคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศแล้วนั้น ยังมีจำนวนตัวเลขเพียงแค่ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นซึ่งผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล พบว่า ประชาชนร้อยละ 60.10 คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว                   

แต่รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะให้ประเทศชาติเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีค่า GDP ที่สูงขึ้น แน่นอนว่าเมื่อการเปิดประเทศเกิดขึ้นจริง ธุรกิจทุกภาคส่วนย่อมต้องมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าซึ่งต้องใช้แรงงานคนมากขึ้น อาจมีการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายได้ รัฐบาลควรทำให้คนเหล่านี้ถูกกฎหมายเพื่อที่จะได้รับการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยของแรงงานต่างด้าวและประชาชนภายในชาติของเราด้วยเช่นเดียวกัน
“ดุสิตโพล”เปิดผลสำรวจคนไทยร้อยละ 60 ยังไม่พร้อมเปิดประเทศ1พ.ย.นี้