"อธิบดีกรมอุตุฯ" แจงเหตุน้ำท่วมปีนี้ ขึ้นอยู่ "กรมชลฯ" ปล่อยน้ำ
ปธ.กมธ.แก้ความยากจน วุฒิสภา เผยผลหารือกับอธิบดีกรมอุตุฯ ถึงสถานการณ์น้ำท่วม ได้รับคำตอบ ฤดูฝนภาคใต้ น่าห่วงกว่าภาคอีสาน คาดเหตุน้ำท่วมปีนี้ไม่แรงเท่าปี54 แต่ขึ้นอยู่กับ กรมชลฯ ระบายน้ำ
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ส.ว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ ต่อการเข้าพบนายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาและผู้บริหารกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อพูดคุยเรื่องสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ เพื่อให้ข้อมูลในการพยากรณ์อากาศสามารถสร้างและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ ทั้งด้านการเกษตร การท่องเที่ยว และการแพทย์
ทั้งนี้นายสังศิต ระบุตอนหนึ่งว่า อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา บอกว่าสภาพอากาศของภาคอีสานและประเทศไทยตอนบนในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ สถานการณ์น้ำฝนตกคลี่คลาย แต่สภาพอากาศทางภาคใต้มีแนวโน้มน่ากังวลกว่าภาคอีสาน โดยวันที่ 15 ตุลาคม ถึง เดือนธันวาคมจะเข้าสู่ฤดูฝนของพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ รองประธานกมธ.ฯ ถึงความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่ใดบ้าง โดยอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ คงไม่หนักเท่ากับเมื่อปี 2554 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปล่อยน้ำของกรมชลประทานด้วย ก่อนหน้านี้ก็มีประเด็นปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานข้อมูลสภาพอากาศไปยังกรมชลประทานโดยตลอด
“อธิบดีกรมอุตุนิมวิทยา เห็นว่าถ้าสามารถแจ้งข่าวการปล่อยน้ำให้แก่ชาวนาให้เก็บเกี่ยวได้ก่อนราว 5-7 วัน จะช่วยลดความเสียหายได้มาก และเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วถ้าปล่อยน้ำเข้ามาก็สามารถทำเป็นบ่อเลี้ยงปลาได้อีกทางหนึ่ง แต่ทั้งหมดนี้ต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทานด้วย เพราะการผันน้ำขึ้นกับการแจ้งข้อมูลของกรมชลประทาน เพราะ กรมอุตุนิยมวิทยารับผิดชอบน้ำจากฟ้า แต่กรมชลประทานรับผิดชอบน้ำบนดิน” เฟซบุ๊ค นายสังศิต ระบุ