ทางหลวงถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ และสะพานชำรุด 11 จังหวัด จราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง
![ทางหลวงถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ และสะพานชำรุด 11 จังหวัด จราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2021/10/5V1UMDp23VVSgzJtK6Di.jpg?x-image-process=style/LG)
อัพเดท! ทางหลวงถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 11 จังหวัด 25 สายทาง 53 แห่ง โดยการจราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.64 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีมีความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และปลอดภัย ตลอดจนป้องกันเหตุแก่ประชาชน และผู้ใช้รถในช่วงฤดูฝนนี้
โดยให้ติดตามเฝ้าระวังการเกิดอุทกภัย ติดตามการเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากเกิดภัยพิบัติให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งแก้ไขให้การจราจรใช้การได้ในเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งสั่งการให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ วัสดุและชิ้นส่วนสะพานเบลีย์ เครื่องจักร ยานพาหนะ เตรียมพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานที่ในกรณีถนนหรือสะพานขาด
นอกจากนี้ ยังกำชับให้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และตั้งจุดให้บริการประชาชน จัดรถ Mobile Service ช่วยเหลือประชาชนกรณีรถเสียบนทางหลวง จัดรถบรรทุกไว้บริการรับส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัย รวมถึงให้บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะปกติตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. พบ ทางหลวงถูกน้ำท่วม
ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 11 จังหวัด 25 สายทาง 53 แห่ง โดยการจราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง ดังนี้
1. จังหวัดขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
- ทล.2 ท่าพระ - ขอนแก่น ช่วง กม. ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 250 เซนติเมตร
- ทล.12 ขอนแก่น - พรหมนิมิตร ช่วง กม. ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 40 เซนติเมตร
- ทล.2065 พล - ลำชี ช่วง กม. ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์
- ทล.2065 พล - ลำชี ช่วง กม. ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์
- ทล.2131 บ้านสะอาด - เหล่านางงาม ช่วง กม. ที่ 6+700 - 7+200 ระดับน้ำสูง 20 - 30 เซนติเมตร ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 2062 บ้านทุ่ม - มัญจาคีรี กม. ที่ 0 ไปออกทางหลวงหมายเลข 12 บ้านฝาง - ขอนแก่น กม. ที่ 540 เข้าเมืองขอนแก่น
2. จังหวัดมหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน ช่วง กม. ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอนยาง) ลำน้ำชีล้นตลิ่งมีระดับน้ำสูงขึ้น ผนังกั้นน้ำถูกกัดเซาะ ทำการปิดทางลอดอุโมงค์ใต้สะพาน
3. จังหวัดนนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า - ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 25 - 30 เซนติเมตร ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ ที่ กม. 18+500 แทน
- ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า - ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 17+000 ระดับน้ำสูง 25 - 30 เซนติเมตร ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ ที่ กม. 16+600 แทน
4. จังหวัดอ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง)
- ทล.32 นครหลวง - อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 150 เซนติเมตร
- ทล.32 นครหลวง - อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 33+200 (จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.) ระดับน้ำสูง 90 เซนติเมตร
- ทล.32 นครหลวง - อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 10 เซนติเมตร
- ทล.33 นาคู - ป่าโมก ช่วง กม. ที่ 36+200 - 36+400 (สี่แยกไฟแดงป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร
5. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล.347 บางกระสั้น - บางปะหัน ช่วง กม. ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 45 เซนติเมตร
- ทล.3263 อยุธยา - ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 เซนติเมตร
- ทล.3263 อยุธยา - ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 เซนติเมตร
6. จังหวัดสุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล.33 สุพรรณบุรี - นาคู ช่วง กม. ที่ 9+886 สะพานคลองทับน้ำ ระดับน้ำสูง 80 เซนติเมตร
- ทล.340 สาลี - สุพรรณบุรี ช่วง กม. ที่ 59+674 สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม ระดับน้ำสูง 130 เซนติเมตร
7. จังหวัดนครสวรรค์ (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล.1 บ้านหว้า - วังไผ่ ช่วง กม. ที่ 339+600 (จุดกลับรถใต้สะพานเดชาติวงศ์) ระดับน้ำสูง 25 เซนติเมตร
8. จังหวัดตราด (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 3494 ท่าประดู่ - ถางเกลือ ช่วง กม. ที่ 18+490 - 18+570 ระดับน้ำสูง 80 เซนติเมตร
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง โทร.1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1