ผู้ว่า กกท. แจงปม WADA สั่งแบนไทย เร่งแก้ก.ม.โดยด่วนแล้ว

ผู้ว่า กกท. แจงปม WADA สั่งแบนไทย เร่งแก้ก.ม.โดยด่วนแล้ว

"ก้องศักด" ผู้ว่า กกท. แจงปม WADA สั่งแบนไทย เร่งแก้กฎหมายโดยด่วนแล้ว

 กรณี ประกาศจากองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) ไม่ให้การรับรองประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย นั้น

ทำให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาไม่ได้ และนักกีฬาปักธงชาติและชักธงชาติไทยในเวทีสากลไม่ได้

นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เช้านี้ 12 ต.ค. 2564 ระบุว่า ได้ปฏิบัติตามกฎของ WADA ทุกอย่างแล้ว เพียงแต่แก้กฎหมายไม่ทัน ซึ่งได้เร่งด่วนในการแก้กฎหมายแล้ว 

ความคืบหน้าในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยขณะนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อยู่ระหว่างการรับการประเมินผลการดำเนินการการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม 

โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. Audit Programs เป็นการตรวจสอบประเมินการปฏิบัติงานของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ซึ่ง กกท.ได้ดำเนินการแก้ไข และการปฏิบัติงานตามข้อเสนอแนะของ WADA และยังอยู่ในระหว่างการตรวจประเมินของ WADA ซึ่งจะสิ้นสุด ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 

2. Continuous Monitoring Program ซึ่ง WADA ได้ให้การรับรองกฎการต่อต้านการใช้ สารต้องห้ามของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เรียบร้อยแล้ว 
 

และ 3. พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ซึ่ง WADA ได้ทำการตรวจสอบพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 พบว่า มีข้อกำหนด ในบางมาตราที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามที่ประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ฉบับ ค.ศ. 2021 กำหนดไว้

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 อย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

สอดคล้องกับประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก โดยเสนอความเห็นทั้งหมดจากกับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) เพื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาเพื่อให้เกิดผลในภาพรวม และสามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นมาตรฐานและได้รับการรับรองจากสากล

กรณี WADA เตือนมาตั้งแต่ปี 2563 แต่ทำไมแก้กฎหมายไม่ทันนั้น ซึ่ง ผู้ว่าการ กกท. ชี้แจงว่าได้ดำเนินการต้องละเอียดรอบคอบ กรณีกำหนดเพิ่มโทษผู้ใช้สาร และจัดตั้งองค์กรอิสระ โดยทราบประเด็นแต่ไม่ทราบช่วงเวลาหรือเดดไลน์ และได้ทำหนังสือแสดงความจริงใจต่อ WADA ในการแก้ปัญหาแล้ว