ศาลลงดาบ 39 นักดื่ม "ละเมอ" ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

โดนแล้ว ศาลแขวงฯ ลงดาบ 39 นักดื่ม "ละเมอ" ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปรับ 12,500 บาท จำคุกฯรอลงอาญา 1 ปี

นายณรงชนนฐ์ ดีปู่ ปลัดอาวุโส อำเภอเมืองนครราชสีมา (รักษาการในตำแหน่งนายอำเภอเมืองนครราชสีมา) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี กับผู้ประกอบการและผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัด สาธารณสุขจังหวัด/ สารวัตรทหารบก มทบ.21 ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง และสมาชิกร้อย.อส.จ.นม.ที่ 1

 เข้าปิดล้อมตรวจค้นสถานประกอบการ ตามคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 9784/2564 เรื่องมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด 19) สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดของจังหวัดนครราชสีมา (ฉบับที่ 4) โดยห้ามมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 -04.00 น.

ซึ่งพบว่า สถานประกอบการ “ร้านละเมอ” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนสืบศิริ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้มีการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ โดยภายในร้านพบพนักงาน และลูกค้านั่งดื่มสุรา จำนวน 39 คน โดยทั้งหมดรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง และเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำตัวทั้ง 39 คน ส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
 

ทั้งนี้ ศาลแขวงนครราชสีมา ได้มีคำพิพากษาลงโทษกลุ่มผู้กระทำความผิด ทั้ง 39 ราย สั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 12,500 บาท ซึ่งโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการร้านละเมอ ทางฝ่ายปกครองจังหวัดฯ จะดำเนินการทางปกครองต่อไป 

ศาลลงดาบ 39 นักดื่ม \"ละเมอ\" ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เจ้าหน้าที่รัฐเข้าใจถึงความอยากลำบากของพี่น้องประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการทุกประเภท ที่ให้หยุดการดำเนินกิจการ แต่ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนเจ้าหน้าที่ฯ ก็ต้องเข้มงวดกวดขันเพื่อไม่ให้มีการกระทำผิด จึงอยากหุ้กคนได้อดใจรอ คาดว่า อีกไม่นานสถานการณ์จะดีขึ้นและทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นายณรงชนนฐ์ฯ กล่าว