"โควิด-19" จันทบุรี วันเดียวติดเชื้อพุ่ง 450 ราย ห้ามขายเหล้า ถึง 31 ต.ค.นี้

"โควิด-19" จันทบุรี วันเดียวติดเชื้อพุ่ง 450 ราย ห้ามขายเหล้า ถึง 31 ต.ค.นี้

สถานการณ์ COVID-19 จ.จันทบุรี วันเดียวยอดติดเชื้อพุ่ง 450 ราย ผู้ว่าฯ ออกคำสั่ง ห้ามขายสุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทุกห้าง ร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 7-31 ต.ค. 64

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ (คลัสเตอร์ใหม่) ในพื้นที่ จ.จันทบุรี วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา พบมีสถิตติตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงถึง 450 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกและเฝ้าสังเกตอาการโดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดแบ่งเป็นประเทศต่างๆ ประกอบด้วย ชาวไทย 421 รายชาวกัมพูชา 25 ราย - ชาวลาว 3 ราย และชาวจีน 1 ราย ซึ่งจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ขณะนี้ จ.จันทบุรี มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 13,085 ราย รักษาหาย 9,691 รายและเสียชีวิตอยู่ที่ 75 ราย

นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี ได้ออกคำสั่ง จ.จันทบุรี ที่ 3284/2564 เรื่อง ห้ามจำหน่าย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยน สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท ทั้งในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้าทั่วไป ร้านขายของชำและร้านสะดวกซื้อ โดย นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า จากสถิตติตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ สูงเป็น New High วันเดียวพุ่งถึง 450 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกและเฝ้าสังเกตอาการ พบมีกลุ่มเสี่ยงมาจาก กลุ่มแรงงานล้ง ตลาดสด ตลาดนัดโดยเฉพาะ ในกลุ่มผู้ร่วมจัดเลี้ยงสังสรรค์ งานประเพณี พิธีการ รวมถึงยังพบการระบาดในกลุ่มที่ ตั้งวงดื่มสุรา ในสถานที่ทำงาน เคหสถาน หรือสถานที่ต่างๆ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าว ทำให้พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจำนวนมาก และยังไม่สามารถควบคุมโรคได้

เพื่อเป็นการควบคุมและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากพฤติการณ์ดังกล่าว ทางผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ จึงได้ออกประกาศ ห้ามจำหน่าย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยน สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท ทั้งในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้าทั่วไป ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ พร้อมกันนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ และพนักงานเจ้าหน้าที่อื่น ที่มีหน้าที่ตรวจสอบตลอดจน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน หากพบมีการฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน20,000 บาท หรือ ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 -31 ต.ค. 64