"กองทัพ" ซีล ชายแดน สกัดขบวนการค้าอาวุธสงคราม ยันมีมาตรการดูแลคลังอาวุธ

"กองทัพ" ซีล ชายแดน สกัดขบวนการค้าอาวุธสงคราม ยันมีมาตรการดูแลคลังอาวุธ

โฆษกกองทัพบก ระบุ มีมาตรการดูแลคลังอาวุธอย่างดี ไม่มีหลุด เข้มพื้นที่ชายแดนทุกช่องทางสกัดขบวนการค้าอาวุธสงคราม

1 ต.ค.2564 พล.อ. สันติพงษ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก ในฐานะโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมาที่มีการสู้รบ โดยเฉพาะขณะนี้มีการเคลื่อนไหวขบวนการค้าอาวุธสงคราม ว่า กองทัพบกโดย 7 กองกำลังชายแดน มีวิธีปฏิบัติในการดูแลเรื่องดังกล่าวที่ชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ดูแลเฝ้าระวังแนวชายแดนอย่างเต็มที่ เราไม่ยอมให้มีการลักลอบหรือนำสิ่งผิดกฎหมายข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยเด็ดขาด

ในขณะที่การดูแลคลังอาวุธของกองทัพนั้น  กองทัพบก มีมาตรการ ควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างดี มีระเบียบการตรวจตรา ที่ชัดเจนและมีผู้รับผิดชอบ และยืนยันว่าไม่มีอาวุธ หลุดจากคลังกองทัพแน่นอน

ด้าน พ.ต.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบก มีภารกิจสำคัญในการรักษาอธิปไตยของชาติ ป้องกันสิ่งผิดกฎหมายเข้าสู่พื้นที่ตอนใน และปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบตลอดแนวชายแดนของราชอาณาจักรไทย 

โดยในปี 2565 กองทัพบกจัดอัตรากำลังพลในกองกำลัง ป้องกันชายแดนในส่วนของกองทัพบก จำนวน 24,305 อัตรา ปฏิบัติภารกิจใน 7 กองกำลัง ได้แก่ ประกอบด้วย กองกำลังบูรพา, กองกำลังสุรสีห์, กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, กองกำลังสุรนารี, กองกำลังนเรศวร, กองกำลังผาเมือง และ กองกำลังเทพสตรี ปฏิบัติหน้าที่สำคัญหลายประการ อาทิ

 

1. ลาดตระเวนระยะทาง 5,656 กม. ตลอดแนวชายแดนไทย ในพื้นที่ 31 จังหวัด ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก, ช่องทางธรรมชาติ, ช่องทางอื่นๆที่ยากต่อการเข้าถึง เช่น เขาสูง, ป่าภูเขา, หุบเขาลาดชัน เป็นต้น 
 พื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา รวมระยะทาง 2,401 กม.
 พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมระยะทาง 798 กม.
 พื้นที่ชายแดนไทย-ลาว รวมระยะทาง 1,810 กม.
 พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย รวมระยะทาง 647 กม.
2. ปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นยาเสพติด, สินค้าหนีภาษี, การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 
และสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ
3. ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จัดกำลังเฝ้าระวัง ป้องกันตลอดแนวชายแดน
ทั้งทางบกและทางน้ำ ตลอด24 ชั่วโมง เพื่อ ป้องกันการระบาดของโรคเข้ามายังพื้นที่ตอนใน
 
4. บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจและ
ตรวจคัดกรองจุดผ่านแดน โดยกำลังพล 2,913 นาย/วัน

5. จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ อาทิ 
การช่วยดับไฟป่า, อัคคีภัย, วาตภัย, อุทกภัย เป็นต้น