"เจ้าพระยา-สะแกกรัง" เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน เตรียมขนของขึ้นที่สูง

สถานการณ์น้ำท่วม จ.อุทัยธานี เข้าขั้นวิกฤติ "เจ้าพระยา-สะแกกรัง" เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน คาดน้ำจะท่วมหนักเหมือนปี 54 โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจใจกลางตัวเมืองเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ต่างวิตกกังวลเตรียมพร้อมที่จะขนของย้ายขึ้นที่สูงกันแล้ว

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายสถานการณ์น้ำท่วม จ. อุทัยธานี ล่าสุด มวลน้ำเหนือไหลบ่าลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่องจนเต็มลำน้ำแม่น้ำเข้าพระยา วัดอัตราไหลผ่านสถานนี้วัดน้ำ C2 (เจ้าพระยา ) จังหวัดนครวรรค์ 2,521 ลูกบาศเมตรต่อวินาที ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน พื้นที่ตำบลหาดทนง และตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี มีระดับสูงจนเอ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประชาชนในหลายหมู่บ้านของพื้นที่ดังกล่าวอย่างพื้นที่หมู่ที่ 1 อำเภอเมืองจังหวัดอุทัยธานี น้ำท่วมบ้านเรือนประชาไปแล้วกว่า 40 หลังคาเรือน และพื้นที่การกษตรส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างที่

ส่วนบ้านเรือนประชาชน ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูงหรือชั้นสองของบ้านและอาศัยบางครอบครัวนั้นจำเป็นต้องนำมาไว้ข้างถนนเพราะไม่มีที่จะเก็บสิ่งของอยู่บนบ้านบางบ้านที่มีรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์นั้นกำลังเตรียมที่จะนำไปจอดไว้ที่สูงหรือยังไม่ท่วมถึง และที่บริเวณ หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะเทโพซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายเกาะน้ำนั้นได้เข้าท่วมในพื้นที่ต่ำจำนวน 30 หลังคาเรือนจนต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเช่นกัน และนำเรือพายออกมาเวลาเวลาที่มาจับจ่ายซื้อของกันแล้ว

อ่านข่าว : ข้อปฏิบัติลดเสี่ยงโรคในสถานการณ์น้ำท่วม

นางสุรัตน์ สุขคง อายุ 61 ปีบ้านเลขที่ 9/1 หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะเทโพ เปิดเผยว่า ลูกชายนั้นผ่าตัดสมองเพราะเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์นั้นชนกันจึงนอนรักษาตัวเป็นผู้ป่วยติดเตียงมาประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว เดิมทีอาศัยอยู่ในห้องชั้นแรกของบ้านในตอนนี้น้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ จนต้องให้เพื่อนบ้านนำโต๊ะไม้ขนาดใหญ่มารองเตียงไว้อีกทีเพื่อให้พ้นน้ำซึ่งหากระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ คงต้องย้ายลูกชายไปไว้ชั้นสองของบ้านอย่างแน่นอน

ทางองค์การบริหารตำบลเกาะเทโพกำลังเร่งสำรวจบ้านเรือนและไร่นาที่เสียหายจากน้ำท่วมและแจ้งเตือนชาวบ้านหากจำเป็นต้องอพยพไปที่ศูนย์ที่เตรียมไว้กันอย่างเร่งด่วน

ขณะเดียวกันที่บริเวณวัดอุโปสถาราม ฝั่งตรงข้ามกับตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี น้ำในแม่น้ำสะแกกรังสูงขึ้นจนล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมเข้าโบราณสถานสูงประมาณ 30 ซม.และมีแนวโน้มว่าระดับน้ำนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีการระบายน้ำจากเขื่อนวังร่มเกล้าสู่ท้ายเขื่อนเป็นจำนวนมาก แระกอบกับปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระหนุนมาสมทบเพิ่มขึ้นอีก และคาดกันว่าน้ำจะท่วมหนักเหมือนเมื่อปี 2554 โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจใจกลางตัวมืองเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี ต่างวิตกกังวลเตรียมพร้อมที่จะขนของย้ายขึ้นที่สูงกันแล้ว