ทรัพย์สิน 81 ล.! “เอกภาพ พลซื่อ”นายก อบจ.ร้อยเอ็ด ก่อน กกต.ฟันหาเสียงมิชอบ

ทรัพย์สิน 81 ล.! “เอกภาพ พลซื่อ”นายก อบจ.ร้อยเอ็ด ก่อน กกต.ฟันหาเสียงมิชอบ

ทรัพย์สินรวม 81 ล้าน! “เอกภาพ พลซื่อ” อดีต ส.ส.หลายสมัย นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ร้อยเอ็ด “ภริยา” อดีตผู้สมัคร ส.ส.พปชร. ถูกตั้งเป็น ขรก.การเมือง ก่อนโดน กกต.ฟัน ปราศรัยโจมตีคู่แข่งช่วงหาเสียงมิชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มเติม รายชื่อน่าสนใจ นายเอกภาพ พลซื่อ กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564

นายเอกภาพ แจ้งมีทรัพย์สิน 22,483,777 บาท ได้แก่ เงินสด 3 แสนบาท เงินฝาก 2,340,848 บาท ที่ดิน 12,483,300 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 2,550,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 9,628 บาท มีหนี้สิน 1,748,681 บาท

อ่านข่าว : 'ศรีสุวรรณ' ร้อง กกต.เร่งสอบทุจริตเลือกตั้ง อบจ.นนทบุรี

แจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 2,460,080 บาท ที่น่าสนใจเป็นค่าเช่าอาคารพาณิชย์ 60,000 บาท ค่าเช่าหอพัก 2.7  แสนบาท และขายยางพารา+ขายอ้อย 1,010,000 บาท มีรายจ่ายรวม 557,000 บาท

ส่วนนางรัชนี พลซื่อ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน 58,665,438 บาท ได้แก่ เงินสด 2 แสนบาท เงินฝาก 565,418 บาท ที่ดิน 34,220,020 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 19.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 4.8 แสนบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 3.4 ล้านบาท มีหนี้สิน 4,830,807 บาท

แจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 843,120 บาท ที่น่าสนใจเป็นค่าเช่าที่ดินตั้งเสาสัญญาณ AIS มูลค่า 60,000 บาท ค่าเช่าอาคาร+บ้านพัก (ธ.อ.ส.) 3.6 แสนบาท ค่าเช่าอาคารพาณิชย์ 60,000 บาท และค่าเช่าบ้าน (อ.โพนทอง) 24,000 บาท มีรายจ่ายรวม 519,000 บาท

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 81,149,215 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 6,579,489 บาท

สำหรับนายเอกภาพ เป็นอดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด หลายสมัย ก่อนจะมาลงสมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด มีคู่สมรสคือนางรัชนี พลซื่อ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี 2562 แต่ไม่ได้รับการรับเลือก อย่างไรก็ดีต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมือง ในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้หลังชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2564 นายเอกภาพถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสนอศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่ามีการปราศรัยใส่ร้ายผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.คู่แข่ง เข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (5) อย่างไรก็ดีนายเอกภาพชี้แจงกรณีดังกล่าว ยืนยันการพิจารณาของ กกต. ไม่เป็นธรรม เหมือนโดนประหารชีวิตทางการเมือง พร้อมกับยื่นเรื่องร้อง กกต. ให้ทบทวนมติใหม่แล้ว