“ดับเบิลยูเอชโอ”หนุน “โมโนโคลนอลแอนติบอดี” รักษาโควิด-19

“ดับเบิลยูเอชโอ”หนุน “โมโนโคลนอลแอนติบอดี” รักษาโควิด-19

ดับเบิลยูเอชโอหนุนใช้ยาแอนติบอดีผสม “รีเจเนอรอน” รักษาผู้ป่วยโควิด-19 เรียกร้องผู้ผลิตลดราคาเพื่อเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แถลงผลการทดลองทางคลินิกของรีเจเนอรอน   ใช้ยาแอนติบอดีสังเคราะห์ผสมระหว่าง casirivimab และ imdevimab ชี้ว่า มีประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่ไม่ได้มีอาการรุนแรงแต่เสี่ยงสูงต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะโควิด หรือคนที่ป่วยโควิดรุนแรงแล้วไม่มีภูมิคุ้มกัน รีเจเนอรอนจึงถือเป็นยารักษาโควิด-19 ตัวแรกที่ดับเบิลยูเอชโอแนะนำให้ใช้กับผู้ป่วยเสี่ยงสูงที่อาการยังไม่รุนแรง เพื่อลดโอกาสไม่ให้อาการหนักยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ การรักษาโดยแอนติบอดีได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐเมื่อเดือน พ.ย.2563 หลังนำไปใช้รักษาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาโควิด สหราชอาณาจักร (ยูเค) ก็อนุมัติแล้วเช่นกัน ส่วนยุโรปกำลังพิจารณา

พร้อมกันนั้นดับเบิลยูเอชโอเรียกร้องให้รีเจเนอรอน ผู้ถือสิทธิบัตร ลดราคายาลงมาและกระจายยาอย่างทั่วถึงทั่วโลก ทั้งยังควรแบ่งปันเทคโนโลยีเพื่อเปิดให้มีการผลิตยาที่คล้ายคลึงกัน โดยยาตัวนี้โรเช บริษัทยาสวิตเซอร์แลนด์เป็นพันธมิตรผลิตร่วมกับรีเจเนอรอน

ทันทีที่ดับเบิลยูเอชโอแนะนำ กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) ก็เรียกร้องให้รีเจเนอรอน ผลิตยา

casirivimab และimdevimab ในราคาสมเหตุสมผล ให้ผู้ป่วยโดยเฉพาะในประเทศรายได้ต่ำถึงปานกลางเข้าถึงได้ รีเจเนอรอนควรทำตัวให้เป็นตัวอย่างกับผู้ผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีทุกราย ด้วยการเห็นความสำคัญของชีวิตคนมากกว่าผลกำไร