"สหายแสง"ยันปมถือครองที่ดินเจตนาบริสุทธ์ ท้า"เสรีพิศุทธ์" สอบ2ปมร้อน

"สหายแสง"ยันปมถือครองที่ดินเจตนาบริสุทธ์ ท้า"เสรีพิศุทธ์" สอบ2ปมร้อน

"ศุภชัย"รองประธานสภาฯ แถลงยืนยัน ปมถือครองที่ดินป่าดงพะทาย ครอบครองโดยสุจริต-บริสุทธ์ใจเปิดบัญชีทรัพย์สิน ท้ากลับ "เสรีพิศุทธ์" สอบทุจริตซื้อมอเตอร์ไซค์ตร.-รุกแม่น้ำแควน้อย

ที่รัฐสภา นายศุภชัย โพธิ์สุ  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร  แถลงชี้แจงกรณีการครอบครองที่ดิน ป่าดงพะทาย จ.นครพนม ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการ(กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือกมธ.ป.ป.ช.ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส. หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเป็นประธานได้ออกมาแถลงผลสอบในคดีดังกล่าวนั้น

จากคำแถลงของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์เป็นการแถลงเพียงความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวตนเคยถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้วในปี 2554 ก่อนมีการยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อตรวจสอบ

ทั้งนี้มองว่าการนำข้อเท็จจริงมาแถลงเพียงด้านเดียวอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

นายศุภชัย ชี้แจงต่อว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติมีมติจัดสรรให้กับประชาชนที่เป็นชาวนา ชาวไร่ตั้งแต่เมื่อปี 2518 เมื่อกระบวนการจัดสรรที่ดินเสร็จสิ้นจึงได้มอบให้กับกรมที่ดินกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการต่อ

ขอยืนยันว่าที่ดินผืนดังกล่าว ไม่ได้เป็นที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไม่ได้เป็นที่สงวนสำหรับราชการไม่ได้เป็นป่าเสื่อมโทรมแต่ที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า

ดังนั้นทางราชการจึงสามารถนำมาจัดสรรหรือออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ราษฎรตามประมวลกฎหมายที่ดินได้ ซึ่งในปัจจุบัน (2518-2564) จัดสรรทั้งหมด จำนวน 1,492 แปลง แยกเป็น นส.3 ก. จำนวน 32 แปลง เป็นโฉนด จำนวน 30 แปลง คงเหลือเป็นใบจอง จำนวน 1,430 แปลง

ส่วนประเด็นเรื่องสิทธิ์การครอบครอง ขอเรียนว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวของตนเป็นครอบครัวยากจนและได้มีโอกาสในการยื่นความจำนงเพื่อจับสลากขอเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว ยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวเกิดปัญหาข้อพิพาทระหว่างประชาชนที่จับสลากได้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แต่เดิมทำให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันไปมา

กระทั่งปี 2530ไ ด้รับการแต่งตั้งเป็นครูใหญ่ที่บ้านท่าหนามแก้ว ตำบลพระทายตนได้ไปติดต่อขอเช่าสิทธิ์ในการครอบครองจากชาวบ้านที่ครอบครองอยู่แต่เดิม

ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใดใดและยังไม่คิดที่จะทำการเมืองหรือลงสมัครส.ส

กระทั่งปี 2544 ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.สมัยแรก ตนยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสิทธิ์ในการครอบครองจึงยังไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินก่อนที่ภายหลังจะมีการหารือเรื่องดังกล่าวกับอดีตอธิบดีกรมที่ดินและฝ่ายกฎหมายถึงความชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิ์ในการครอบครอง

ซึ่งทั้งอธิบดีและฝ่ายกฎหมายของกรมที่ดินได้ยืนยันว่า ที่แปลงดังกล่าวไม่ใช่ที่ป่าสงวนไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรมแต่เป็นที่ดินที่จัดสรรให้ชาวบ้านหากไม่เข้าทำประโยชน์ภายใน 3 ปีก็จะถือว่าสละสิทธิ์และถือว่าให้ที่ดินกลับไปเป็นที่รกร้างว่างเปล่าเช่นเดิม

ฉะนั้นหากใครครอบครองก็มีสิทธิ์ในการนำเจ้าหน้าที่สำรวจเพื่อออกโฉนดต่อไป

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า เมื่อตนได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 เจ้าหน้าที่ป.ป.ชได้เข้ามาชี้แจงในเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินซึ่งตนได้นำเรื่องนี้หารือกับปปช.ได้รับคำยืนยันว่าหากเป็นที่ดินที่ครอบครองมานานและทำประโยชน์กับที่ดินดังกล่าวหรือได้ประโยชน์กับทรัพย์สินตรงนี้ก็จำเป็นต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อปปชหากไม่แจ้งจะถือว่ามีเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

ทำให้ตนต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วยเจตนาบริสุทธิ์ว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินตรงนี้

ทั้งนี้ตามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (1) ตนเองเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์จึงสามารถนำมาขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน (โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์) ได้ รวมทั้งตามมาตรา 1334 เป็นที่ดินที่ถือว่าผู้ครอบครองได้ครอบครองและทำประโยชน์ภายหลังจากวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (หลังวันที่ 1 ธันวาคม 2497) ซึ่งสามารถนำที่ดินมานำเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินได้ตามมาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (3) 

"ในขณะครอบครองผลเป็นเพียงแค่ครูบ้านนอกคนหนึ่งไม่ได้มีสถานะทางการเมืองเลย การนำเรื่องนี้มาแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเจตนาบริสุทธิ์ของผมเจตนาที่ไม่คิดที่จะปกปิดซ่อนเร้น การการที่ท่านเสรีฯบอกว่า ผมปกปิดบัญชีทรัพย์สินยืนยันว่าไม่ได้ปกปิด"

อย่างไรก็ดีการครอบครองกว่า30ปีตนเชื่อว่านี่คือทรัพย์สินของตนที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ยืนยันว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่รู้สึกกังวลอะไร

นอกจากนี้ขอฝากไปยังพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขอให้ไปตรวจสอบเรื่องใหญ่ๆกรณีการจัดซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อหลายปีที่แล้วเป็นวงเงินนับพันล้าน ซึ่งป.ป.ช.เคยชี้มูลความผิดแต่กลับพบว่ามีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องรายเล็กๆเท่านั้น เหตุใดกมธ.ป.ป.ช.ไม่ไปตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อหาผู้บงการรายรายใหญ่ 

เช่นเดียวกับกรณีการบุกรุกแม่น้ำแควน้อย ซึ่งอธิบดีกรมเจ้าท่ามีคำสั่งให้รื้อสิ่งปลูกสร้าง ขอให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทำกมธ.ลงไปตรวจสอบในเรื่องนี้เพื่อสร้างความกระจ่างให้สังคมด้วยด้วย