"บิ๊กน้อย" วิชญ์ เทพหัสดิน ไม่ธรรมดา! พลังประชารัฐ ศึกใหญ่ใต้เงาบูรพาพยัคฆ์

"บิ๊กน้อย" วิชญ์ เทพหัสดิน ไม่ธรรมดา! พลังประชารัฐ ศึกใหญ่ใต้เงาบูรพาพยัคฆ์

ส่องคอนเน็คชั่น "บิ๊กน้อย" วิชญ์ เทพหัสดิน ขุนพลคู่ใจ "ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ไม่ธรรมดา! "พลังประชารัฐ" ศึกใหญ่ใต้เงาบูรพาพยัคฆ์

นักข่าวสายกีฬาเพิ่งวิเคราะห์อยู่หยกๆ ว่า "บิ๊กน้อย" พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยเหรัญญิกโอลิมปิคไทย มือขวาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจได้ขึ้นเป็นประธานโอลิมปิคไทย 

ไม่ทันข้ามเดือน นักข่าวสายการเมืองก็ประหลาดใจ เมื่อ พล.อ.ประวิตร แต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ 

พล.อ.วิชญ์ โผล่ที่พรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ไฟขัดแย้งในพรรคเพิ่งมอดดับแต่ไม่สนิท การที่ พล.อ.ประวิตร ตั้ง พล.อ.วิชญ์เป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรค ถูกตีความมากมาย บ้างก็ว่ามาเป็นมือประสานร้อยซุ้มพันมุ้ง บ้างก็ว่ามาตีกันฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะมายึดพรรค

"บิ๊กน้อย" วิชญ์ เทพหัสดิน ไม่ธรรมดา! พลังประชารัฐ ศึกใหญ่ใต้เงาบูรพาพยัคฆ์

บังเอิญ "บิ๊กน้อย" ไม่ใช่คนเก็บตัว เพราะคุ้นเคยกับนักข่าวสายทหาร สายกีฬามาก่อน จึงเปิดใจผ่านสื่อเรื่องการเข้ามาทำงานการเมือง เพราะต้องการมาช่วย พล.อ.ประวิตร พี่ที่รัก ซึ่งกำลังขาดคนทำงานที่เป็นคนที่มองตารู้ใจ ไม่ได้เข้ามาเพื่อตีกันใคร 

เย็นวันที่ 17 ก.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เสร็จภารกิจที่ จ.ชลบุรี ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยม พล.อ.ประวิตร ที่ป่าบ้านรอยต่อฯ เพราะก่อนหน้านั้น บิ๊กป้อมไปงานศพบิดา ส.ส.สมุทรปราการ เกิดพลาดไปลื่นเกือบล้ม ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมรับประทานอาหารเย็นกับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.วิชญ์ 

จากนี้ไป ทุกจังหวะก้าวของ พล.อ.วิชญ์ จะได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะน้องรักของบิ๊กป้อมคนนี้ อาจไปได้ไกลกว่าตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคฯ

อ่านข่าว : "พล.อ.วิชญ์" ปธ.ยุทธศาสตร์พปชร. เกมบล็อก "ประยุทธ์-อนุพงษ์" ยึดพรรค

'สายวงศ์เทวัญ'

หากส่องปูมหลัง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ก็ต้องย้อนไปดูเส้นทางบิดา- พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตรอง ผบ.ทบ. , อดีต รมช.กลาโหม และรัฐมนตรีสำนักนายกฯ รัฐบาลเกรียงศักดิ์

"บิ๊กน้อย" วิชญ์ เทพหัสดิน ไม่ธรรมดา! พลังประชารัฐ ศึกใหญ่ใต้เงาบูรพาพยัคฆ์

ก่อน 6 ต.ค.2519 พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขุนศึกสาย "ถนอม-ประภาส" มีบทบาทสำคัญในการทำรัฐประหาร เพราะคุมกำลังทหารเมืองหลวง 

"พล.อ.ยศ" แห่งราชสกุลเทพหัสดิน เติบโตในราชการทหาร สายวงศ์เทวัญ เคยเป็นผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทยในเวียดนามคนแรก

หลังเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 พล.อ.ยศ ถูกโยกไปเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 กระทั่ง พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เป็น รมว.กลาโหม รัฐบาลคึกฤทธิ์ พล.อ.ยศ จึงกลับเข้าเมืองหลวง เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 (ปี 2518-2519)

ช่วงเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 พล.อ.ยศ ได้ชักชวน เสนาะ เทียนทอง คหบดีใหญ่ อ.วัฒนานคร ลงสมัคร ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคชาติไทย (เวลานั้น อ.สระแก้ว ยังไม่ได้แยกออกจาก จ.ปราจีนฯ)

พล.อ.วิชญ์ เดินตามรอยบิดา-พล.อ.ยศ เรียนจบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 11 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 22 รับราชการในเหล่าทหารราบ อยู่ในสายวงศ์เทวัญ

ปี 2552 พล.อ.วิชญ์ ขยับจากผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ทบ. ครองอัตราจอมพล ในยุคที่ พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.กลาโหม รัฐบาลอภิสิทธิ์

นักข่าวสายทหารทราบดีว่า พล.อ.วิชญ์นั้นเป็นทหารสายวงศ์เทวัญ แต่ก็เป็นน้องรักคนหนึ่งของ "บิ๊กป้อม" พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์

'สายสนามม้า'

บางข้อมูลเกี่ยวกับ พล.อ.วิชญ์ นั้นประมาณว่า พล.อ.ประวิตร ส่งน้องรักคนนี้ไปดูแลสนามม้านางเลิ้ง คอลัมนิสต์บางคนถึงกับบอกว่า บูรพาพยัคฆ์ยึดนางเลิ้ง

จริงๆแล้ว พล.อ.วิชญ์ ทำงานอยู่ที่ราชตฤณมัยสมาคมฯ หรือสนามม้านางเลิ้ง มาตั้งแต่ปี 2545 เหมือนเป็นการเดินย่ำรอยเดิมของบิดา-พล.อ.ยศ 

"บิ๊กน้อย" วิชญ์ เทพหัสดิน ไม่ธรรมดา! พลังประชารัฐ ศึกใหญ่ใต้เงาบูรพาพยัคฆ์

ยุคถนอม-ประภาส มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายคนเข้ามาคุมสนามม้านางเลิ้ง อาทิ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา, พล.อ.สุรสิทธิ์ จารุเศรณี และพล.อ.โชติ หิรัณยัษฐิติ

ปี 2518 พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. นายทหารสายพรรคชาติไทย ร่วมกับ พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา แม่ทัพภาคที่ 1 เข้ามาเป็นกรรมการบริหารสนามม้านางเลิ้ง 

เวลานั้น พล.อ.ฉลาด ได้ส่ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ มาเป็นผู้ดูแล หลังหลังกบฏ 26 มี.ค.2520 กลุ่มนายทหารสาย พล.อ.ฉลาด ต้องรับโทษติดคุกยกแผง 

สมัยรัฐบาลเกรียงศักดิ์ พล.อ.ยศ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการสนามม้านางเลิ้ง เมื่อลูกน้อง พล.อ.ฉลาด ได้รับการนิรโทษกรรมคดีกบฏ 26 มีนา พล.อ.ยศ ก็ให้ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น กับ “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ เข้ามาเป็นกรรมการแข่งม้า

ผ่านมาถึงปี 2545 "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ ในฐานะเลขาธิการกิตติมศักดิ์ มีอำนาจคุมสนามม้านางเลิ้งเต็มตัว ได้ดึงตัว พล.อ.วิชญ์ ลูกชาย พล.อ.ยศ มาเป็นกรรมการประชาสัมพันธ์

"บิ๊กน้อย" วิชญ์ เทพหัสดิน ไม่ธรรมดา! พลังประชารัฐ ศึกใหญ่ใต้เงาบูรพาพยัคฆ์

จะเห็นได้ว่า พล.อ.วิชญ์ อยู่ในสนามม้านางเลิ้งมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเข้ามาช่วง "บิ๊กป้อม" เป็นประธานโอลิมปิคไทย ฉะนั้น พล.อ.วิญช์ จึงได้สัมผัสกับนักการเมืองมากหน้า เพราะสนามม้านางเลิ้ง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์

"เสธ.ไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ลูกพี่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็เป็นขาใหญ่สนามม้านางเลิ้งคนหนึ่ง ก็รู้จักมักคุ้นบิ๊กน้อยเป็นอย่างดี

ปี 2560 ครบรอบ 100 ปี ของราชตฤณมัยสมาคมฯ พล.อ.วิชญ์ เป็นเลขาธิการกิตติมศักดิ์ราชตฤณมัยสมาคมฯ แทน "เสธ.อ้าย" และเป็นประมุขสนามม้านางเลิ้งคนสุดท้าย 

ส่วนตัว "บิ๊กน้อย" มีคอกม้าอยู่ที่นครราชสีมา และเป็นนายกสมาคมกีฬาม้าแข่งไทย ยังมีบทบาทสำคัญในแวดวงอาชาไทย 

ประสบการณ์อันโชกโชกในยุทธจักรกีฬาม้าแข่ง ที่มีนักการเมืองเป็นเจ้าของคอกม้า และคลุกคลีตีโมงอยู่สนามม้านางเลิ้ง อดีตกองบัญชาการทางการเมืองของ "เสธ.หนั่น" ในยุคหนึ่ง พล.อ.วิชญ์ ย่อมไม่ใช่ละอ่อนทางการเมืองอย่างแน่นอน