“ฝ่ายค้าน" ยืมมือ “สภาฯ" ขยายปม “แจก5ล้าน” เขย่า “รัฐบาล"

“ฝ่ายค้าน" ยืมมือ “สภาฯ" ขยายปม “แจก5ล้าน” เขย่า “รัฐบาล"

แม้ศึกซักฟอก จะล้ม "พล.อ.ประยุทธ์" ในสภาฯ ไม่ได้ แต่"ฝ่ายค้าน" ยังมีช่องทางที่จะจัดการ โดยการขยายผล จากการเปิดแผลในสภาฯ ทั้งเรื่องที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ และประเด็นใหม่ "แจกกล้วย5ล้านบาท"

         "พรรคร่วมฝ่ายค้าน” เดินเกมต่อเนื่อง หลังจากจบศึก อภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้ ไม่สามารถปลด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” จากเก้าอี้ผู้นำประเทศ ได้ด้วยกลไกของสภาฯ

 

         แต่ยังมี "ช่องทางตามกฎหมาย” ที่ตามสอย และ สั่นคลอน ศรัทธา ของรัฐบาล 

 

         ล่าสุด “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” สรุปเรื่อง  ที่จะยื่นให้ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” หรือ “ป.ป.ช.” แล้ว จำนวน 8 เรื่อง คือ เกี่ยวกับโควิด-19 จำนวน 6 ประเด็น, การระบายยางพาราที่เข้าข่ายทุจริต ไม่โปร่งใส จำนวน 1 เรื่อง และ กรณีสัมปทานดาวเทียม  ที่เข้าข่ายผูกขาดให้กับธุรกิจดาวเทียมรายเดียว จำนวน 1 เรื่อง

 

         ไม่หมดเท่านั้น เพราะมีเรื่องแถม เตรียมยื่นให้ “คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร”  หรือ "กมธ.ปราบโกง" ที่มี “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน ตรวจสอบ “ถุงกล้วย 5 ล้าน” 

 

         หลัง “วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย” ร้องเรียนกลางสภาผู้แทนราษฎร  ต่อหน้า “ชวน หลีกภัย”  และการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อ 2 กันยายนว่า “พล.อ.ประยุทธ์”  จ่ายเงินให้ส.ส. คนละ 5 ล้านบาท ที่ห้องทำงานชั้น3 

“ฝ่ายค้าน" ยืมมือ “สภาฯ" ขยายปม “แจก5ล้าน” เขย่า “รัฐบาล"

         แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะปฏิเสธภายหลังว่า "ไม่ทำเรื่องถุงขนม บ้าๆ”

 

         แต่เรื่องนี้ ถือว่าสร้างความเสียหายให้ภาพพจน์ของสภาฯ และ “ชวน” ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง

         จึงเป็นชนวนตั้งต้น ที่ ฝ่ายค้าน พร้อมเดินเกมยื่นกับ “กมธ.ปราบโกง” คู่ขนานไปกับการตรวจสอบของ “กรรมการ สภาฯ ” 

 

         เหตุผลสำคัญ คือ ไม่มั่นใจในกระบวนการตรวจสอบของ “กรรมการสภาฯ” โดย สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย  1 ใน 3 ของพยานบุคคล ฝั่ง “ผู้กล่าวหา”  บอกว่า “กรรมการ ของสภาฯ ทั้ง 5 คนนั้น คือ ข้าราชการตัวเล็กๆ และไม่มีอำนาจ ความอิสระมากพอที่จะตรวจสอบรายละเอียด จนประจักษ์ชัด”

 

         กรณีที่ส่งเรื่องให้ “กมธ.ปราบโกง” ซึ่งเป็นคนฝั่งเดียวกับ พรรคฝ่ายค้าน จึงไว้วางใจและเชื่อมือได้มากกว่า อีกทั้งกมธ.มีอำนาจตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่จะตรวจสอบ  ไม่กลัวใครจะเล่นงาน หรือ กลั่นแกล้ง

 

“ฝ่ายค้าน" ยืมมือ “สภาฯ" ขยายปม “แจก5ล้าน” เขย่า “รัฐบาล"

         ส่วนที่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธทันทีกลางสภาฯ  ไม่ใช่การแก้ตัวให้พ้นข้อกล่าวหา แต่อาจกลายเป็นประจักษ์พยานที่ชี้ให้เห็นว่า คนในกลุ่มก้อนนั้น เป็นไปอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา

 

         ขณะที่ผลการตรวจสอบนี้ จะโยงไปถึงความผิดชั้นไหน กฎหมายข้อใด “ประธานวิปฝ่ายค้าน” บอกอาจเข้าข่ายหลายฉบับ เพราะ พฤติกรรมที่ถูกแฉกลางสภาฯ คือ การติดสินบน, การใช้สินจ้าง สร้างอิทธิพล ที่มีผลต่อการตัดสินใจ ลงมติของ “ส.ส.” ที่มีเอกสิทธิ์ออกเสียงได้อย่างอิสระ นอกจากนั้นหากดูในแง่จริยธรรม อาจมีความผิดอย่างร้ายแรง ทั้ง “คนให้" และ "คนรับ”

         โดยข้อกฎหมายที่โยงพฤติกรรมและการกระทำฉาวโฉ่ในสภาฯ นั้น “สุทิน” บอกว่า สัปดาห์หน้าจะสรุปรายละเอียดอย่างชัดเจนอีกครั้ง พร้อมกับยื่นเรื่องให้ กมธ.ปราบโกงพิจารณาตรวจสอบ

 

         ส่วนการตรวจสอบของ “กรรมการฯสภาฯ” ที่มีองค์ประกอบ คือ “พรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ” เป็นประธาน - สัตยา อรุณธารี อดีตรองอัยการสูงสุด ฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาฯ - อาพัทธ์ สุขะนันท์ รองเลขาสภาฯ และ ข้าราชการฝ่ายกฎหมายอีก 2 คน ร่วมเป็นกรรมการ

“ฝ่ายค้าน" ยืมมือ “สภาฯ" ขยายปม “แจก5ล้าน” เขย่า “รัฐบาล"

         ล่าสุด เชิญ “ส.ส.วิสาร” เข้าให้ข้อเท็จจริง เมื่อวันศุกร์ ที่ 10 กันยายน โดยเจ้าตัวให้ข้อมูลและรายละเอียด ที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ พร้อมบอกถึงพฤติกรรมแจกคูปอง เพื่อรับเป็นเงินสด มีรถขนเงิน พร้อมเสนอชื่อ ไทกร พลสุวรรณ ที่มีหลักฐานเรื่องรถ เป็นผู้ให้ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม

 

         กับ หลักฐานที่ฝ่ายค้านมีตอนนี้ ทั้งคลิปเสียง คลิปวีดีโอในพื้นที่สภาฯ คลิปจากเครื่องเอ็กซ์เรย์วัตถุ รวมถึงพยานบุคคล ที่สามารถเอาความ ส่งเป็นคดีพิสูจน์ความจริงกันถึงชั้นศาลได้

 

         การสอบของกรรมการสภาฯ “ชวน” ขีดเส้นทำให้เสร็จภายใน 30 วัน หรือ สิ้นสุดวันที่ 4 ตุลาคม นี้ แม้ฝ่ายค้านจะตั้งคำถาม กับความความอิสระและอำนาจของข้าราชการ ที่ตรวจสอบผู้มีอำนาจ

 

         แต่ในใจ ยังหวังลึกๆว่า ระดับ “ชวน” นักการเมืองน้ำดี จะทำให้ได้ผลการตรวจสอบเบื้องต้น ที่พอขยายประเด็นจน “รัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ไม่เป็นสุขได้.