เตรียมเฮ! รมว.ท่องเที่ยวฯ ขานรับเปิดเที่ยวเขาสก-เขื่อนรัชชประภา

เตรียมเฮ! รมว.ท่องเที่ยวฯ ขานรับเปิดเที่ยวเขาสก-เขื่อนรัชชประภา

3 สมาคมท่องเที่ยวหลักใน จ.สุราษฎร์ธานี ยื่นหนังสือขอเปิดแหล่งท่องเที่ยวเขาสก-เขื่อนรัชชประภา และวัคซีน 1 แสนโดสรับการท่องเที่ยว รมว.ท่องเที่ยว ขานรับเห็นด้วยเตรียมเสนอ ศบค.พิจารณา พร้อมจัดวัคซีนชุดใหญ่ให้ 3 แสนโดส

นายพิริยะ ธานีรณานนท์ และนายปัญญา แสงสุริยัน ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเขาสก พร้อมด้วยนางลัฐิกา ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมโรงแรมและท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกฤษณะ รักกะเปา นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเขาสกและนายสมเชาว์ โกศล นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอเสนอเปิดแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก อ.พนม อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน และขอรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) ในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาตรวจราชการดูแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเพื่อเตรียมความพร้อมหลังวิกฤตโควิด- 19 ในพื้นที่ อ.บ้านนาเดิมและ อ.พุนพิน โดยมีนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

นายพิริยะ กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาลได้มีนโยบายเปิดประเทศภายใน 120 วัน เพื่อกระตุ้นด้านเศรษฐกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยได้เปิดการท่องเที่ยวนำร่องระยะที่ 1 ที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 ระยะที่ 2 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 64 และมีแผนขยายไปยังเกาะพีพี เกาะไหง เกาะไร่เล จ.กระบี่ และเขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา นั้น

 

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี เห็นว่า สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก อ.พนม และบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อ.บ้านตาขุน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ปัจจุบันมีความปลอดภัยสูง(Safety Zone) และมีความเหมาะสมในการรองรับขยายเส้นทางการท่องเที่ยวต่อเนื่องจาก จ.กระบี่ และ จ.พังงา ได้เป็นอย่างดี หากได้เปิดการท่องเที่ยวจะเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล อันจะส่งผลดีต่อการเพิ่มมูลค่าด้านการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง

 

 “ ในการนี้ จึงขอเสนอให้รัฐบาล พิจารณาเปิดการท่องเที่ยวบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก อ.พนม และบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อ.บ้านตาขุนและขอความอนุเคราะห์รัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อฉีดให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 50,000 คน (100,000 โดส) ได้มีภูมิคุ้มกันหมู่และมีความปลอดภัยในการรองรับเปิดการท่องเที่ยว ” นายพิริยะ กล่าว

ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเสนอเปิดแหล่งท่องเที่ยวเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก อ.พนม และบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อ.บ้านตาขุน มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว จ.พังงา และ จ.กระบี่ ได้ โดยจะนำข้อมูลเสนอต่อ ศบค.และรัฐบาลพิจารณาต่อไป ส่วนวัคซีนที่เสนอขอมาจะฉีดให้กับประชาชน จำนวน 100,000 โดส(50,000 คน)เพื่อรองรับการเปิดท่องเที่ยวอาจจะไม่เพียงพอ ตนจะขอเสนอจัดสรรมาให้เพิ่มเป็น 300,000 โดส(150,000คน) ที่จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่

 

ด้านนายปัญญา แสงสุริยัน ที่ปรึกษาทั้ง 3 สมาคมท่องเที่ยวหลัก กล่าวว่า ขอเสนอให้ภาครัฐจัดสรรวัคซีนฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนให้ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากร เนื่องพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน เป็นเส้นทางสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ที่จะสามารถเลือกเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวในช่วง 15 วันเป็นวงจรหมุนเวียนไปตามจังหวัดต่างๆได้สะดวก

 

“ เนื่องจากทั้ง 2 ฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ฤดูมรสุมไม่ตรงกันจึงสามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี อาทิ เส้นทางเริ่มต้นที่ จ.ชุมพร มายังเกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย ข้ามไปยังเกาะพีพี เกาะลันตา ไร่เล จ.กระบี่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา จ.ภูเก็ต เขาสก เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ได้มีความปลอดภัยทั้งประชาชนเจ้าบ้านและเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับแขกที่มาเยือน ” นายปัญญา กล่าว ทททททททท