ตร. ย้ำ กลุ่มป่วนดินแดง คือบุคคลอันตราย ล้อมจับ 18 ราย ยึด จยย. 30 คัน

ตร. ย้ำ กลุ่มป่วนดินแดง คือบุคคลอันตราย ล้อมจับ 18 ราย ยึด จยย. 30 คัน

นครบาล เตรียมรับมือม็อบ 4 กลุ่มนัดรวมตัววันนี้ สรุปเหตุการณ์ชุมนุม 6 กันยา พบวางเพลิงหลายจุด ส่วนภาพคฝ.ถีบรถ จยย. เป็นภาพอุบัติเหตุเก่า จ่อ 4 บัญชีนำเข้าข่าวปลอม

 7 ก.ย.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงการเตรียมความพร้อมที่มีนัดหมายชุมนุม ในวันที่ 7 กันยายน ในวันนี้ ของ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นาย นายนันทพงศ์ ปานมาก มีการ นัดหมายเวลา 10:00 น. หน้าทำเนียบรัฐบาล ประตู1

กลุ่มของนาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นัดรวมตัวเวลา 16.00 น. จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ บริเวณแยกราชประสงค์ เพื่อเคลื่อนไปยังแยกอโศก กลุ่มทะลุฟ้า ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นัดหมายเวลา 16.00 น.

และกลุ่มทะลุแก๊ส บริเวณสามแยกดินแดง ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดโดยการกระทำดังกล่าว ถือมีความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ และความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวก และรักษาความสงบ การจราจรให้แก่ประชาชน

ส่วนการชุมนุมเมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) กลุ่มของ นาย ณัฐวุฒิ บริเวณแยกอโศก ไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่จับกุมรถเครื่องเสียง 1 คัน พร้อมผู้ต้องหาอีก 3 คน และกลุ่มทะลุแก๊ส มีการละเมิดกฎหมาย ปิดการจราจร ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมถึงขว้างปาสิ่งของ ลูกแก้ว ระเบิดแสวงเครื่อง ไปป์บอม ระเบิดเพลิง พลุเพลิง พลุไฟ ใส่สถานที่ราชการ และเอกชน

อีกทั้งมีการจุดเพลิง วางเพลิงเผาทรัพย์ ในหลายๆจุดรอบสามเหลี่ยมดินแดง โดยเฉพาะตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้าของอุโมงค์ลอดใต้สามเหลี่ยมดินแดง ประกอบด้วย ระบบการควบคุมไฟฟ้า แสงสว่าง พัดลมระบายอากาศ (ระบบระบายน้ำ และ วัดระดับน้ำ) และระบบกล้องวงจรปิดภายในอุโมงค์ จนได้รับความเสียหายทั้งหมด ก่อให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่ต้องสัญจรอุโมงค์ดังกล่าว ซึ่งช่วงที่มีฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้             

โดยขณะนี้ สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหาย และเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

ซึ่งความรุนแรงเหล่านี้ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ชุมนุมทางการเมืองแต่อย่างใด เป็นผู้ก่อความวุ่นวาย และเป็นบุคคลอันตรายต่อประชาชน

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่มีการแจ้งเตือนให้หยุดการกระทำดังกล่าวเป็นระยะๆ แต่กลุ่มผู้ที่ก่อเหตุ ไม่หยุดกระทำ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปปฏิบัติตามยุทธวิธี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 18 ราย พบเป็นเยาวชน 9 ราย พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 30 คัน

โดยผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนเจ้าหน้าที่จะมีการเรียกผู้ปกครอง หาก ปล่อยปละละเลยก็จะถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ยืนยันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ดำเนินการตามกฎหมาย และตามมาตรฐานสากล พร้อมฝากเตือนประชาชนที่จำเป็นต้องสัญจรในบริเวณดังกล่าว ขอให้เลี่ยงเส้นทางในห้วงเวลานั้น เนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายได้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถแยกว่าผู้ใดเป็นผู้ใด

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวกล่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ชนประชาชน มีการถีบทำให้รถล้ม ใช้กระบองตี จนกระบอกศีรษะเปิด ยืนยันว่าเป็นการนำภาพอุบัติเหตุของรถจักรยานยนต์ในอดีตมาเผยแพร่ ทำให้สังคม เกิดความเข้าใจผิด โดยทางกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) อยู่ระหว่างการสืบสวน 4 บัญชี ที่นำเข้าข่าวปลอมดังกล่าว ว่าเป็นบัญชีของบุคคลใด และเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ หากพบพยานหลักฐาน ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต่อไป