ครม.เล็งใช้เวที 'เอเปค' เดินหน้าประเด็น 'ความมั่นคงทางอาหาร'

ครม.เล็งใช้เวที 'เอเปค' เดินหน้าประเด็น 'ความมั่นคงทางอาหาร'

ครม.สั่งเดินหน้าประเด็นความมั่นคงอาหาร ใช้เวทีเอเปคเดินหน้าเพื่อแก้ไขปัญหา ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบหลักการร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีความมั่งคงอาหารและร่างแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ.2030 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารระหว่างกันภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับนี้ จะมีการรับรองในการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ที่ประเทศนิวซีแนด์เป็นเจ้าภาพ ผ่านระบบการประชุมทางไกลในวันที่ 19 สิงหาคม 2564 (สมาชิกเอเปค มี 21 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ไทย) สำหรับสาระสำคัญของร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับมีดังนี้

1.ร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค มีสาระสำคัญ คือ

(1)รับทราบผลกระทบด้านความมั่นคงทางอาหารและห่วงโซ่อุปทานจากสถานการณ์โควิด-19

(2)วางแนวทางในการตอบสนองต่อวิกฤตสุขภาพโลกและสภาวะเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก

และ (3)รองรับแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ.2030

2.ร่างแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ.2030 มีสาระสำคัญเป็นการผลักดันประเด็นความมั่นคงอาหาร

โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้

(1)มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมมาใช้ในระบบอาหารและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่

(2)มุ่งเน้นการแก้ปัญหาด้านผลผลิตอาหาร

(3)สนับสนุนการมีส่วนร่วมที่สมดุลของเพศ ชาติพันธุ์ และอายุ

(4)ร่วมกันพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการผลิตที่ยั่งยืน

(5)ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยตระหนักถึงบทบาทของภาคเอกชนที่เป็นศูนย์กลางตลอดห่วงโซ่คุณค่าอาหารในการผลิตและการแปรรูปอาหาร การกระจายสินค้า

"ร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการดำเนินงานด้านความมั่นคงอาหารของไทย รวมถึงมีความสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียวในภาคเกษตรของไทย"