คลังชี้ลดคุ้มครองเหลือ1ล้านไม่กระทบเชื่อมั่นผู้ฝาก

คลังชี้ลดคุ้มครองเหลือ1ล้านไม่กระทบเชื่อมั่นผู้ฝาก

คลังระบุ การลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท ไม่กระทบความเชื่อมั่นผู้ฝาก เหตุสถาบันการเงินยังเข้มแข็ง ชี้ผู้ฝากใช้เวลาเตรียมตัวเพียงพอแล้ว ด้านออมสินประเมิน จะมีเม็ดเงินฝากไหลเข้าธนาคารหลังการลดวงเงินคุ้มครอง ทั้งหน่วยงานภาครัฐเอกชนและรายย่อย

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวถึงกรณีการคุ้มครองเงินฝาก 100% ในวงเงิน 1 ล้านบาทต่อ 1 ธนาคาร ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้ (11 ส.ค.)เป็นวันแรกว่า กรณีดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงินแต่อย่างใด เนื่องจาก ขณะนี้ สถาบันการเงินมีความเข้มแข็งอยู่มาก และ ที่ผ่านมา ทางสถาบันคุ้มครองเงินฝากก็ได้ประกาศเลื่อนระยะเวลาการคุ้มครองมาอย่างต่อเนื่อง เท่ากับให้ระยะเวลาผู้ฝากมีการเตรียมตัวในการบริหารจัดการเงินออมของตัวเอง ดังนั้น การเริ่มต้นระยะเวลาคุ้มครองเงินฝากในระดับดังกล่าว จึงมีความเหมาะสมแล้ว


“การปรับเปลี่ยนวงเงินการคุ้มครองเงินฝากจาก 5 ล้านบาท เหลือ 1 ล้านบาทนั้น เราได้ให้ระยะเวลามานานแล้ว ก็ทำให้ผู้ฝากเงินได้เตรียมตัวมาเพียงพอแล้ว”


นอกจากนี้ วงเงินการคุ้มครองที่ 1 ล้านบาท ก็ถือว่า ครอบคลุมบัญชีเงินฝากส่วนใหญ่ในระบบอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ฝากส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบกรณีการเปลี่ยนวงเงินการคุ้มครอง


สำหรับการโยกย้ายเงินฝากจากแบงก์พาณิชย์มาอยู่แบงก์รัฐนั้น เขากล่าวว่า ขณะนี้ เราไม่ได้รับรายงานการโยกย้ายบัญชีเงินฝากที่มีความผิดปกติแต่อย่างใด

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินประเมินว่า หลังจากวันที่ 11 ส.ค.นี้ จะมีเงินฝากจำนวนหนึ่งไหลเข้ามายังธนาคาร อาทิ หน่วยงานที่มีเงินฝากระดับหนึ่ง ทั้งหน่วยงานรัฐ และ เอกชน รวมถึง ผู้ฝากที่มีเงินฝากเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้าย ทั้งสองกลุ่มนี้ ต้องการให้เงินฝากได้รับการคุ้มครอง โดยที่ไม่มีความเสี่ยง ส่วนเม็ดเงินจะเป็นจำนวนเท่าใด จะต้องรอดูต่อไป

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านการคุ้มครองเงินฝากในระยะที่ผ่านมา ยอดเงินฝากได้ไหลเข้ามายังธนาคาร แต่เป็นจำนวนที่ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินเป็นแบงก์รัฐแห่งเดียวที่พ.ร.บ.ของธนาคารกำหนดการคุ้มครองเงินต้นและดอกเบี้ยโดยรัฐบาลทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ ธนาคารก็มีสถานะที่แข็งแกร่ง ทั้งในแง่สินทรัพย์และภาพรวมการดำเนินงาน ดังนั้น จึงถือว่า ธนาคารมีความเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ฝากเงิน
“หลังวันที่ 11 ส.ค.นี้ เชื่อว่า จะมีเงินฝากไหลเข้ามาแบงก์เราอย่างแน่นอน แต่คิดว่า จะไม่รุนแรง เช่น หน่วยงานรัฐและบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินก้อนแต่ไม่เสี่ยง มาแน่นอน หรือ ผู้ฝากเงินที่เขามีเงินเก็บก้อนสุดท้าย ก็เชื่อว่า จะโยกมา”