ทศวรรษใหม่ 'อินิชิเอทีฟ' ..ลูกค้า สื่อ และบริษัท ต้องกอดคอกันรอด!

ทศวรรษใหม่ 'อินิชิเอทีฟ' ..ลูกค้า สื่อ และบริษัท ต้องกอดคอกันรอด!

มุมมองฝ่าวิกฤติโดย 2 แม่ทัพจากยักษ์ใหญ่แห่ง "ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส" ผ่านหัวข้อ “ทศวรรษที่ 3 ของ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย กับการเป็น Cultural Agency” ที่พร้อมลุยแก้โจทย์ธุรกิจ เคียงข้างลูกค้า

วิกฤติโควิด-19เป็นครั้งแรกที่กระทบผู้บริโภคลูกค้าของเราและเวนเดอร์ที่เป็นตัวกลางขนส่งกระจายสินค้าทำให้เราต้องช่วยดูทั้ง3ส่วนเพื่อแก้ปัญหา

ปี 2563-64 เป็นปีแห่งความท้าทายของทุกธุรกิจ เพราะต้องรับมือกับวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาดมาราธอนข้ามปี ไม่เว้นกระทั่งวงการ “มีเดียเอเยนซี่” ที่ทำหน้าที่วางแผนสื่อและการตลาดให้กับลูกค้าแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆ

เมื่อวิกฤติไวรัสร้ายยังอยู่ ธุรกิจจะปรับกระบวนท่าอย่างไรให้อยู่รอด 2 แม่ทัพจากยักษ์ใหญ่มีเดียเอเยนซี่ จึงมาแชร์มุมมองผ่านหัวข้อ “ทศวรรษที่ 3 ของ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย กับการเป็น Cultural Agency”

หัวเรือใหญ่ ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ให้นิยามการขับเคลื่อนธุรกิจปี 2564 เป็นปีที่พันธมิตรทั้งลูกค้า สื่อ และบริษัทต้องกอดคอกัน “รอด” แต่โจทย์การทำงาน รวมถึงกระบวนท่าหรือกลยุทธ์การทำตลาด การวางแผนสื่อสารกับผู้บริโภคต้องไม่เหมือนเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

2564 เป็นปีที่พันธมิตรทั้งลูกค้า สื่อ และบริษัทต้องกอดคอกัน “รอด” แต่โจทย์การทำงาน รวมถึงกระบวนท่าหรือกลยุทธ์การทำตลาด การวางแผนสื่อสารกับผู้บริโภคต้องไม่เหมือนเดิม

เวลานี้กิจกรรมต่างๆไม่สามารถทำได้ ต้องใช้สูตรใหม่ ลุยสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านสื่อสังคมออนไลน์สร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย หันใช้ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด (Influencer) ไม่ให้หลุดจากโจทย์ของแบรนด์ เป็นต้น รอวันที่สถานการณ์เข้าสู่ในทิศทางที่ดี จึงอัดแคมเปญใหญ่ความโอกาส

“โจทย์ใหญ่ต้องไม่เจ็บเหมือนปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า สื่อและบริษัท ซึ่งเราต้องหาทางผลักดันกันสร้างการเติบโต”

162822538545
ธราภุช จารุวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย 

ธราภุช ยังสวมหมวกนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ซึ่งจากโรคโควิดระบาดเป็นระลอกใหม่ๆ จึงอยู่ระหว่างการประเมินแนวโน้มธุรกิจสื่อโฆษณาในปี 2564 เบื้องต้นคาดการณ์ 2 ซีนาริโอ คือเห็นการเติบโตทรงตัวหรือหดตัวเล็กน้อย

“การระบาดรอบล่าสุดยังไร้จุดสิ้นสุด ยากจะฟันธงว่าอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาจะดีหรือลบ”

แม้ปีนี้โรคระบาดยังอยู่ แต่เครือไอพีจีฯ เคลื่อนไหวครั้งสำคัญ โดยแต่งตั้งอดีตประธานบริหารฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ ของไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทยอย่าง สร เกียรติคณารัตน์ นั่งเป็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย มีภารกิจสำคัญในการพลิกภาพองค์กรจากการเป็น “มีเดียเอเยนซี่” ยกระดับสู่การเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ช่วยแก้ปัญหารอบด้าน ทั้งวางแผนกลยุทธ์ และใช้พลังสื่อพันธมิตรมาต่อจิ๊กซอว์สร้างการเติบโตให้ทุกพาร์ทเนอร์

162822573691
สร เกียรติคณารัตน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย

ขณะที่การพลิกโฉมก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 เป้าหมายสำคัญไม่ต้องการเป็นมีเดียเอเยนซี่ใหญ่สุด แต่ต้องการเน้นด้านคุณภาพ 2 ส่วน ทั้งคุณภาพงาน และคุณภาพการเข้าใจลูกค้า

ดังนั้น การทำงานไม่ใช่แค่เข้าไปรับบรีฟการวางแผนซื้อสื่อจากลูกค้า แต่ต้องเข้าใจประเด็นปัญหาธุรกิจของลูกค้า เห็นอะไรเกิดขึ้น สัญญาที่จะส่งผลต่อธุรกิจต้องรายงานลูกค้า เป็นการเดินไปข้างหน้าก่อนลูกค้า เมื่อลูกค้ามีปัญหาต้องการให้นึกถึงอินิชิเอทีฟ

การทำงานไม่ใช่แค่เข้าไปรับบรีฟการวางแผนซื้อสื่อจากลูกค้า แต่ต้องเข้าใจประเด็นปัญหาธุรกิจของลูกค้า เห็นอะไรเกิดขึ้น สัญญาที่จะส่งผลต่อธุรกิจต้องรายงานลูกค้า เป็นการเดินไปข้างหน้าก่อนลูกค้า เมื่อลูกค้ามีปัญหาต้องการให้นึกถึงอินิชิเอทีฟ

“เรามีทีมงานที่เปรียบเสมือนอเวนเจอร์ ช่วยให้การทำงานได้มุมมองหลากหลาย และการขยับสู่การเป็นที่ปรึกษาระยะยาว เรามองการก้าวไปข้างหน้าเสมอ เป็นผู้นำทางความคิด”

สร มีประสบการณ์ในแวดวงสื่อและโฆษณามากว่า 20 ปี เมื่อต้องเข้ามารับบท “ผู้นำ” อินิชิเอทีฟ ท่ามกลางวิกฤติ ยอมรับว่าเป็นความท้าทาย เพราะโจทย์ที่ลูกค้าให้มาแตกต่างจากอดีต โดยเฉพาะกระหน่ำลดราคาหรือ Heavy sale เพื่อโฟกัสการสร้าง “ยอดขาย” ให้เกิดขึ้น นอกจากทำงานตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ สิ่งที่ขบคิดให้ลูกค้ามองการลงทุนระยะยาวเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด และตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ไว้ เพราะหากลดทอนกลยุทธ์ดังกล่าว การกอบกู้ตำแหน่ง “ผู้นำ” และส่วนแบ่งตลาดอาจต้องใช้สรรพกำลังและเงินทุนมากกว่าเดิม

ขณะเดียวกันยอมรับว่าห้วงเวลานี้ ลูกค้าให้ความสำคัญกับการใช้เงินอย่างคุ้มค่า การสื่อสารตลาดจึงต้องเลือกใช้สื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ไม่ใช้เงินก้อนเดียวหว่านเจาะลูกค้าวงกว้าง

ปัจจุบันหมดยุค One size fits all การทำงานให้ลูกค้ายังปรับเปลี่ยนหรือ Cutomize ให้เหมาะสมกับแต่ละแบรนด์ สินค้าแต่ละหมวด แต่ละสถานการณ์ด้วย เช่น ขณะนี้จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มมีข้อจำกัดการค้าขาย ต้องจัดทัพไปลุยในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งยังมีโอกาส เป็นต้น

“วิกฤติโควิด-19 เป็นครั้งแรกที่กระทบผู้บริโภค ลูกค้าของเรา และเวนเดอร์ที่เป็นตัวกลางขนส่งกระจายสินค้า ทำให้เราต้องช่วยดูทั้ง 3 ส่วนเพื่อแก้ปัญหา เทียบกับอดีตวิกฤติเศรษฐกิจ อาจส่งผลต่อผู้บริโภคด้านเดียว แก้โจทย์ออกสินค้าไซส์เล็กหรือใหญ่ จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายก็รอดได้ แต่ครั้งนี้เป็นดิสรัปชั่นที่ทำให้ธุรกิจต้องทรานส์ฟอร์มจริงๆ”