‘จี20’ไฟเขียวแผนปฏิรูปภาษีโลก

‘จี20’ไฟเขียวแผนปฏิรูปภาษีโลก

ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการแบงก์ชาติกลุ่มจี20 ไฟเขียวแผนปฏิรูปภาษีโลก พร้อมผลักดันให้บรรดาผู้นำทั้ง20ประเทศลงนามรับรองในการประชุมซัมมิตจี20 เดือนต.ค.ที่จะถึงนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้บริหารจากธนาคารกลางของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ(จี20)ซึ่งประชุมร่วมกันที่นครเวนิซ ประเทศอิตาลี เมื่อวันเสาร์ (10 ก.ค.)ได้ให้การรับรองแผนปฏิรูประบบภาษีโลก ซึ่งจะปูทางไปสู่การสกัดกั้นการโยกผลกำไรของบริษัทข้ามชาติไปยังประเทศที่เป็นแดนสวรรค์ของการหลบเลี่ยงภาษี

นอกจากนี้ ที่ประชุมจี20 ยังเห็นพ้องร่วมกันว่า จำเป็นต้องดำเนินการในด้านต่างๆเพื่อสร้างหลักประกันว่าประเทศที่มีฐานะยากจนกว่าจะสามารถเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม การอนุมัติและการเห็นพ้องจากที่ประชุมจี20 ในทั้ง2ประเทศที่ต้องผ่านการลงนามรับรองอย่างเป็นทางการของบรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้บริหารระดับสูงจากธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ไม่ได้ระบุรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับข้อเสนอใหม่ๆ ในการดำเนินการในทั้ง2ประเด็น แต่ตั้งเป้าว่าจะให้บรรดาผู้นำทั้ง 20 ประเทศลงนามรับรองแผนปฏิรูปภาษีอย่างเป็นทางการในการประชุมสุดยอดจี20 ในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ ในการประชุมความร่วมมือเพื่อป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและการโยกย้ายกำไรของประชาคมโลกที่มีจี20 และกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ(โออีซีดี)เป็นแกนนำ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. สมาชิก 130 ประเทศที่โออีซีดีเป็นตัวแทนเชิญให้เข้าประชุมความร่วมมือดังกล่าว เห็นพ้องที่จะปฏิรูประบบภาษีโลกครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาบริษัทข้ามชาติหลบเลี่ยงภาษีได้มากขึ้น

แผนปฏิรูปภาษีที่130 ประเทศเห็นพ้องมีสาระสำคัญ2 ประเด็นคือ การกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกและการจัดสรรรายได้ภาษีของบริษัทข้ามชาติที่ให้บริการดิจิทัลในรูปแบบใหม่ที่มีความเป็นธรรมมากขึ้น

ปัจจุบัน รัฐบาลทั่วโลกจำเป็นต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบการการระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำให้ทุกประเทศหันมาให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรายได้จากภาษีและเลิกแข่งขันกันลดฐานภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้ง 130 ประเทศจึงบรรลุข้อตกลงให้มีอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำที่ 15% และใช้กับบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้มากกว่า 750 ล้านยูโร